กรณ์ โพสต์ทำความดีในวันมหามงคล มอบข้าว 7.8 ตัน แก่ 5มูลนิธิ นำร่องนโยบายเกษตรพรีเมียม

เชิญชวนให้เพื่อนเฟซบุ๊กมอบข้าวอินทรีย์แก่ 5 มูลนิธิ ได้แก่ วัดพระบาทน้ำพุ-บ้านราชาวดีชาย-หญิง-ศูนย์ผู้สูงอายุวาสนะเวศม์-วัดถ้ำกระบอก ด้วยการสมทบทุนบริจาค “ข้าวเปอร์เซ็นต์-อินทรีย์” ด้วยกัน

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุคส่วนตัว Korn chatikavanij แสดงความขอบคุณ ประชาชนที่ร่วมสมทบทุนบริจาคให้ 5 มูลนิธิเพื่อสังคม โดยระบุว่า รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวกลาง

นำข้าวอินทรีย์ที่ได้รับการสมทบทุนบริจาคผ่านโครงการเกษตรเข้มแข็ง หรือ ข้าวอิ่ม มามอบแก่น้องๆ และผู้ป่วยของทั้ง 5 มูลนิธิ รวม 7,800 กิโลกรัม

นายกรณ์ กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มต้นจากการที่ตนลงนาทำแปลงทดลองทางนโยบายเกษตรที่จังหวัดมหาสารคาม ตาม แนวพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน และทำต่อเนื่องมาตลอด 5 ปี

โดยก่อนนี้ได้เชิญชวนให้เพื่อนเฟซบุ๊กมอบข้าวอินทรีย์แก่ 5 มูลนิธิ ได้แก่ วัดพระบาทน้ำพุ-บ้านราชาวดีชาย-หญิง-ศูนย์ผู้สูงอายุวาสนะเวศม์-วัดถ้ำกระบอก ด้วยการสมทบทุนบริจาค “ข้าวเปอร์เซ็นต์-อินทรีย์” ด้วยกัน ซึ่งโดยปกติโครงการ "ข้าวอิ่ม" ช่วงปีใหม่เราจะช่วยชาวนา

ระบายข้าวชุดของขวัญในถุงผ้าสวยงาม

และในขั้นตอนการผลิตดังกล่าวนี่เอง จะมีปลายข้าวหักที่เป็นผลพลอยได้จากการสีข้าว ซึ่งยังสามารถทานได้ และคุณค่าสารอาหารก็ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เมล็ดไม่สวยพอที่จะขายแบบข้าวพรีเมียมเหมือนตอนปีใหม่ได้

ข้าวหักตรงนี้ปกติชาวนาจะขายไม่ได้ราคา ตกกิโลละไม่ถึงสิบบาท โรงสีส่วนใหญ่จะบังคับรับซื้อไปเลยก็มี ไม่มีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งน่าเสียดายมาก

“โครงการจึงนำข้าวหักมาผสมใหม่ เป็น “ข้าวเปอร์เซ็นต์-อินทรีย์” และในกิจกรรมนี้เราสามารถช่วยคนได้ 2 ต่อ ต่อที่หนึ่ง “ช่วยชาวนาให้มีรายได้เพิ่ม” จากปกติขายข้าวหักได้ กก.ละ 5 บาท เราจะมอบมูลค่าข้าวอินทรีย์เปอร์เซ็นต์ที่ผสมใหม่นี้ที่ 3 กิโล 100 บาท

ต่อที่สอง ช่วยให้เด็ก คนชรา และคนป่วย จาก 5 มูลนิธิจะได้ทานข้าวพันธุ์ดีที่ปลอดสารพิษ ซึ่งทีมงานประสานเรียบร้อยแล้วว่า ขาดแคลน และจะกระจายให้แต่ละแห่งตามสัดส่วนความต้องการจริง” นายกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้นายกรณ์ ได้เป็นตัวแทน มอบข้าวแก่ บ้านราชาวดีหญิง เป็นเด็กหญิงพิการซ้ำซ้อน จำนวนทั้งหมด 400 กว่าคน พร้อมกับระบุว่า ในบริเวณเดียวกันที่ปากเกร็ดนี้เอง มีจำนวนกว่า 2,000 คนที่รอคอยความช่วยเหลืออยู่ สามารถติดต่อเพื่อช่วยเหลือได้บ้านราชาวดี