posttoday

รมว.เกษตรฯเล็งยกเลิก 3 สารพิษที่ใช้ในการเกษตรฯในปี'63

24 เมษายน 2562

เกษตรฯเล็งเลิกนำเข้า 3 สารพิษต้องห้ามที่ใช้ในการเกษตรในปี'63 สั่งหั่นนำเข้าเหลือ 50% พร้อมให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯตรวจสต๊อกเอกชนภายใน15 วัน

เกษตรฯเล็งเลิกนำเข้า 3 สารพิษต้องห้ามที่ใช้ในการเกษตรในปี'63 สั่งหั่นนำเข้าเหลือ 50% พร้อมให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯตรวจสต๊อกเอกชนภายใน15 วัน

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ออกกฏกระทรวง 5 ฉบับ จำกัดการใช้สารเคมีวัตถุอันตราย ใช้ในการเกษตรกำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืช 3ชนิด คือพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส โดยได้ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วันหลังจากนี้

ทั้งนี้ จะมีการจำกัดการนำเข้าสารเคมีลดลงประมาณครึ่งของที่เคยนำเข้าตัวละอยู่ระหว่าง 2-3 ตันต่อปีจากเดิมอนุญาตให้นำเข้า 4-6 ตันต่อปี ซึ่งในปี 2562 จำกัดการนำเข้าตามมาตรการโดยจำกัดการนำเข้าตามชนิดพืช เช่น พาราควอต 2 หมื่นตัน ไกลโฟเซต 4.8 หมื่นตัน คลอร์ไฟริฟอส 1,150 ตัน พร้อมกันนี้ได้สั่งการหน่วยงานในเรื่องการสร้างการรับรู้ให้กับทุกภาคส่วน ให้นำไปใช้อย่างถูกวิธี จึงจะเร่งดำเนินการสร้างการรับรู้ ผู้ผ่านอบรมการใช้จึงนำใบอนุญาตไปซื้อขาได้

นอกจากนั้น ได้สั่งการให้นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงฯ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการจำกัดการใช้สารเคมี 3 ชนิดของกระทรว งและอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นเลขานุการเร่งสำรวจปริมาณสารเคมีทั้ง 3 ชนิดทั้งจากผู้นำเข้าและร้านจำหน่ายว่า มีอยู่เท่าไร ต่อไปจะต้องแจ้งปริมาณสต๊อกสินค้าทุก 15 วัน โดยระบุปริมาณที่ได้รับ แหล่งที่มา และแหล่งที่ส่งสารเคมีทั้ง 3 ชนิดออกไปในพื้นที่ด้วยน

" ได้กำหนดชนิดพืช อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด และไม้ผล ที่ใช้สารพาราควอต และไกลโฟเซต ส่วนสารคลอร์ไพริฟอส ให้ใช้เฉพาะกำจัดแมลงในการปลูกไม้ดอก พืชไร่ และเพื่อกำจัดหนอนเจาะลำต้นในไม้ผล รวมทั้งขณะนี้ให้กรมวิชาการเกษตรร่วมกับภาควิชาการและภาคเอกชนศึกษาวิจัยหาวิธีการ หรือสารอื่นมาทดแทนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ซึ่งคณะอำนวยการขับเคลื่อนของกระทรวงต้องรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนทุก 3 เดือน หากทำได้ตามที่กำหนดไว้ทั่วประเทศ จะยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดทันที" นายกฤษฎากล่าว