posttoday

พณ.ไม่ให้ปรับราคาสินค้าเหมือนปรับค่าตั๋วโดยสารขสมก.

22 เมษายน 2562

พาณิชย์ชี้การปรับขึ้นค่าตั๋วรถโดยสารประจำทางไม่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน จะอ้างขอปรับราคาสินค้าหรืออาหารจานด่วนไม่ได้

พาณิชย์ชี้การปรับขึ้นค่าตั๋วรถโดยสารประจำทางไม่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน จะอ้างขอปรับราคาสินค้าหรืออาหารจานด่วนไม่ได้

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการตรวจสอบผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะที่มีผลต่อดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) โดยปัจจุบันค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางของประชาชนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2% ของรายการที่นำมาคำรวณเงินเฟ้อ

พณ.ไม่ให้ปรับราคาสินค้าเหมือนปรับค่าตั๋วโดยสารขสมก.

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าค่าโดยสารที่ปรับขึ้นไม่ได้มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน เพราะค่าโดยสารกระทบต่อค่าใช้จ่ายประชาชนที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก อาจทำให้ระมัดระวังการใช้จ่ายเงินมากขึ้น แต่ไม่ได้กระทบตรงต่อต้นทุนผลิต และการขนส่งเหมือนกับขึ้นราคาพลังงาน และจะไม่มีผลจะไม่มีผลโดยตรงที่จะอ้างปรับราคาสินค้าหรืออาหารจานด่วน

สำหรับ การประกาศขึ้นค่าโดยสารของ ขสมก.จะเริ่มในวันที่ 22 เม.ย.ถึง 22 เม.ย.2563 รถโดยสารธรรมดาจาก 06.50 บาท ปรับเป็น 8 บาท รถโดยสารปรับอากาศครีม-น้ำเงินจาก 10-18 บาท ปรับเป็น 12-20 บาท รถโดยสารปรับอากาศยูโรทู จาก 11-23 บาท ปรับเป็น 13-25 บาท รถโดยสารปรับอากาศใหม่ จาก 11-23 บาท ปรับเป็น 15,20,25 บาท

ส่วนการปรับอัตราค่าโดยสารระยะที่ 2 จะเริ่มปรับตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 2563 มีราคาดังนี้ รถโดยสารธรรมดาจาก 8 บาท ปรับเป็น 10 บาท ปรับอากาศครีม-น้ำเงินจาก 12-20 บาท ปรับเป็น 13 -21 บาท รถโดยสารปรับอากาศยูโรทู จาก 13-25 บาท ปรับเป็น 14-26 บาท รถโดยสารปรับอากาศใหม่ ราคาเท่ากับรอบแรก15,20,25

พณ.ไม่ให้ปรับราคาสินค้าเหมือนปรับค่าตั๋วโดยสารขสมก.