posttoday

"อ.เจษฎา" เตือน "ยาหน้าท้องแบน" โฆษณามั่วหลอกสายกินช่วงเทศกาล

13 เมษายน 2562

รศ.ดร.เจษฎา เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณายาช่วยยุบหน้าท้องแม้จะกินหนักแค่ไหนแต่ตื่นมาหน้าท้องแบนราบ แท้จริงคือยาระบาย ยิ่งกินมากยิ่งอันตรายต่อลำไส้

รศ.ดร.เจษฎา เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณายาช่วยยุบหน้าท้องแม้จะกินหนักแค่ไหนแต่ตื่นมาหน้าท้องแบนราบ แท้จริงคือยาระบาย ยิ่งกินมากยิ่งอันตรายต่อลำไส้

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เรื่องราวเตือนภัยสาวๆ ในช่วงเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ซึ่งอาจจะเที่ยวและกินกันอย่างสนุกสนานจึงอาจจะหลงเชื่อรับประทาน “ยาระบาย” ตามข้อความเผยแพร่ในโลกออนไลน์เชิญชวนว่า “เทศกาล กินเยอะ กินแยะ เหล้ามา เบียร์มี หมูกระทะตามมีอีก มีติดตัวไว้หรือยัง รับรองกินมากแค่ไหน กลางคืนกินตัวนี้ เช้ามาท้องแบนราบแน่นอน” ซึ่งความจริงตัวยาดังกล่าวคือ ยาระบาย หากยิ่งทานติดต่อกันจะทำให้เซลล์ประสาทลำไส้ทำงานลดลง และเมื่อหยุดยาดังกล่าวส่งผลทำให้ท้องผูกและถ่ายไม่ออก

โดยอาจารย์เจษฎา ได้ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อว่า “Jessada Denduangboripant” ใจความว่า "ระวัง อย่ากินยาระบายพร่ำเพรื่อ"

มีคำถามจากทางบ้านว่ายาที่เขาขายกันในรูปนี้ ซึ่งมีขายตามเพจขายเสื้อผ้าด้วยซ้ำ มันคือยาอะไร ทำไมถึงกินหลังกินข้าวหนักและทำให้หน้าท้องแบนราบได้ เท่าที่เช็คเจอเจ้ายาสีชมพูในรูปมันเป็น "ยาระบาย" ครับ กินมากไปเป็นอันตรายด้วย

ยาเม็ดสีชมพูมีคำว่า Chinta นั้น จริงๆ แล้ว เป็นยาระบาย ประกอบด้วยตัวยา Bisacodyl สำหรับกระตุ้นลำไส้ให้เคลื่อนไหวขับอุจจาระ และยา Dioctyl sodium sulfosuccinate สำหรับช่วยให้อุจจาระลื่นเป็นเมือก ซึ่งยาพวกนี้กินติดต่อกันนานๆ ไม่ดี เพราะจะทำให้เซลล์ประสาทที่ลำไส้ทำงานลดลง ทำให้เมื่อหยุดยาแล้วจะท้องผูก ถ่ายไม่ออก

นอกจากนี้ต้นทุนของยาพวกนี้ราคาแค่เม็ดละ 60 สตางค์ แต่มักจะมาหลอกขายกันแพงๆ เม็ดละ 5-6 บาท เลยทีเดียว ควรระวังนะครับ

"อ.เจษฎา" เตือน "ยาหน้าท้องแบน" โฆษณามั่วหลอกสายกินช่วงเทศกาล