posttoday

สมเด็จพระสังฆราชประทานพระคติธรรม "ผู้มียศต้องระมัดระวังตนอย่างยิ่ง"

31 มีนาคม 2562

สมเด็จพระสังฆราชประทานพระคติธรรมแก่นักเรียนพระสังฆาธิการ ทรงเตือนให้ระมัดระวังตน มิให้ตกอยู่ในฐานะผู้มีปัญญาทรามแต่ได้ยศ

สมเด็จพระสังฆราชประทานพระคติธรรมแก่นักเรียนพระสังฆาธิการ ทรงเตือนให้ระมัดระวังตน มิให้ตกอยู่ในฐานะผู้มีปัญญาทรามแต่ได้ยศ

สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.62 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้นักเรียนพระสังฆาธิการ คณะธรรมยุต รุ่นที่ 45 เฝ้าถวายสักการะและรับประทานพระโอวาท

การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรมเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือที่ระลึกของนักเรียนพระสังฆาธิการ คณะธรรมยุต รุ่นที่ 45 ความตอนหนึ่งว่า

“สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตักเตือนเรื่องการใช้ยศให้เป็นประโยชน์ไว้ ปรากฏความในทุมเมธชาดก ว่า ‘ยสํ ลทฺธาน ทุมฺเมโธ อนตฺถํ จรติ อตฺตโน, อตฺตโน จ ปเรสฺญฺจ หึสาย ปฏิปชฺชติ.’ แปลความว่า ‘ผู้มีปัญญาทรามได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมปฏิบัติเพื่อความเบียดเบียนตน และคนอื่น’

"พระสังฆาธิการ จัดว่าเป็นบุคคลผู้มียศ เพราะมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญในการบังคับบัญชาปกครองพระภิกษุสามเณรผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา จึงจำเป็นต้องระมัดระวังตนอย่างยิ่ง มิให้ตกอยู่ในฐานะผู้มีปัญญาทรามแต่ได้ยศ หากท่านต้องมีวิริยภาพในการอบรมเจริญปัญญาให้ก้าวหน้าเพิ่มพูนขึ้นเสมอ"

"การปฏิบัติกิจเพื่อประโยชน์ของคณะสงฆ์ หากขาดความเฉลียวฉลาดรอบรู้เสียแล้ว ย่อมไม่สามารถประคับประคองให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะฉะนั้น พระสังฆาธิการมีหน้าที่ขวนขวายศึกษาให้รู้ซึ้งถ้วนถี่ในพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎ ระเบียบ มติ และประกาศของคณะสงฆ์ เพื่อนำไปใช้สำหรับครองตน ครองคนผู้เป็นบริวาร และครองงานที่ได้รับมอบหมายให้บังเกิดสัมฤทธิผล จนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีปัญญารุ่งเรือง สามารถประพฤติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ สามารถปฏิบัติเพื่อความคุ้มครองอารักขาตนและคนอื่น ให้บรรลุถึงความสวัสดีได้อย่างสมกับความเป็นพระสังฆาธิการ"