นิสิตมช.สิ้นหวัง"แก้ฝุ่นพิษ"ตั้งกลุ่มไหว้ศาลช้างมหาลัยให้ช่วยแก้
กลุ่มนักศึกษาม.เชียงใหม่รวมตัวบนบานศาลช้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย หลังฝุ่นละออง PM 2.5 ไม่ได้รับการแก้ไข
กลุ่มนักศึกษาม.เชียงใหม่รวมตัวบนบานศาลช้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย หลังฝุ่นละออง PM 2.5 ไม่ได้รับการแก้ไข
สืบเนื่องจากเหตุสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกิดวิกฤตปกคลุมทั่วพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบนเกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยไล่ได้ตั้งแต่ จังหวัดพะเยา ลำพูน แพร่ น่าน ตาก ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย โดยเฉพาะที่เชียงใหม่มีรายงานค่าดัชนีคุณภาพอากาศโดยรวมในช่วงเช้าขึ้นสูงสุดถึง 271 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก เมื่อวานนี้เวลา 07.00น. จากการวัดของเว็บไซต์ AIRVISUAL
ซึ่งหลังได้รับผลกระทบจากค่าของฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพร่างกาย นิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงได้ออกมาเคลื่อนไหวหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาครัฐเร่งให้ความสนใจแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผ่านนัยยะการแสดงการถวายหน้ากากอนามัยให้กับศาลช้างอันเป็นศาลพระภูมิของมหาวิทยาลัยเป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของนักศึกษามหาวิทยาเชียงใหม่ หวังให้ช่วยปัดเปาฝุ่นพิษให้หมดไป
ทั้งนี้สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “Mew Thammajak” ได้โพสต์ภาพดังกล่าวเผยแพร่สู่โลกออนไลน์และพร้อมกันนั้นยังได้ระบุข้อความตัดพ้อในการออกมาแสดงการกระทำเช่นนี้ดังนี้
เมื่อผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่สามารถช่วยได้ ก็คงต้องเป็นภาระสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นหนทางสุดท้ายแล้วแหละ ปัญหาฝุ่นควันซึ่งเป็นมลพิษโดยเฉพาะPM2.5 ไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อวาน วานซืนหรือวันนี้ มันเกิดขึ้นเเละเป็นปัญหามาเป็นเดือนๆ แล้ว ผู้มีอำนาจหรือภาครัฐในจังหวัด ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อย่าว่าแก้ไขปัญหาให้หายไปเลย ให้มันลดลงก็ยังยาก
แล้วผลลัพธ์คืออะไร ทุกคนในเชียงใหม่ต้องอยู่ในภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเช่นนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ นี่ก็ได้ที่1เมืองมลพิษของโลกมาสองวันติดกันแล้ว ดังนั้นจึงขอให้มีมาตรการเด็ดขาดและทันทีเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเร็ว
ในส่วนมหาวิทยาลัยก็จะต้องมีส่วนเข้ามาแก้ไขและช่วยเหลือนศ. ซึ่งที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนักศึกษาเข้ายื่นหนังสือถึงมหาลัยแล้ว และล่าสุดมหาลัยก็ได้จัดซื้อหน้ากากอนามัยชนิด N95 แจกจ่ายนศ. มีการจัดอบรมให้ความรู้ ในวันที่ 19 มีนาคม ซึ่งอาจไม่ทันการ อีกทั้งจะมีการมอบเป็นพิธีและถ่ายรูปร่วมกันอีก คิดแล้วเหนื่อยใจ
แต่อย่างไรในขั้นต้นเราก็จะต้องดูแลตัวเองเป็นประการแรกก่อนเพราะสุขภาพเป็นของตัวท่านเอง ประการต่อมาก็คงจะต้องเป็นผู้มีอำนาจแก้ไขปัญหา โดยต้องแก้ไขอย่างเด็ดขาดและทันทีไม่เช่นนั้นเชื่อได้ว่าจะมีคนล้มป่วยมากขึ้นอย่างแน่นอน ประการสุดท้ายเป็นหน้าที่ของชาวเชียงใหม่และทุกๆคน ที่จะช่วยกันลดการก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้นในระยะยาว
