ภาคประชาชนจี้รัฐจัดระเบียบงานบวชให้ปลอดเหล้าอย่างแท้จริง
ภาคประชาชน จี้รัฐบาลออกมาตรการเชิงรุก จัดระเบียบงานบวช งานบุญปลอดน้ำเมา เร่งทำข้อตกลงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วอนชุมชนปรับวิธีคิดเปลี่ยนพฤติกรรม
ภาคประชาชน จี้รัฐบาลออกมาตรการเชิงรุก จัดระเบียบงานบวช งานบุญปลอดน้ำเมา เร่งทำข้อตกลงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วอนชุมชนปรับวิธีคิดเปลี่ยนพฤติกรรม
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)พร้อมด้วย เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และตัวแทนนักเรียน นักศึกษา กว่า30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนมติมหาเถรสมาคมเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา และยื่นข้อเสนอเชิงรุกในการป้องกันและแก้ไขปัญหางานบวช ที่มีการละเมิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้เครือข่ายฯ ได้มีการแต่งกาย แสดงละครเพื่อสะท้อนปัญหางานบวชงานบุญที่มีเหล้าด้วย โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นผู้มารับเรื่องแทน
เภสัชกรสงกรานต์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์แห่นาคงานบวชวัดสิงห์ มีการทำร้าย ครู อาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนวัดสิงห์ ขณะกำลังสอบ GAT/PAT เพราะไม่พอใจที่ทางวัด และโรงเรียนขอความร่วมมือลดเสียงดังจากเครื่องเสียงขบวนแห่นาค ซึ่งปัจจัยสำคัญเพราะมีการดื่มสุราทำให้ขาดสติยับยั้งชั่งใจ จนเป็นเหตุสะเทือนใจ สร้างความเสื่อมเสียร้ายแรงต่อพุทธศาสนา และศรัทธาชาวพุทธ อีกทั้งเครือข่ายฯเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในพื้นที่อื่นๆอีก รวมทั้ง เป็นห่วงศรัทธาของชาวพุทธ เมื่อจะจัดงานบวช งานบุญ จะไปให้ความสำคัญมหรสพ จัดงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่นาคที่เสียงดัง จัดเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มุ่งเน้นไปในทางบันเทิงสนุกสนาน ซึ่งไม่ใช่แก่นหรือหัวใจสำคัญของการบวช หรืองานบุญ ตามหลักคำสอนในทางพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้ มหาเถรสมาคม ได้มีการประชุมวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา เน้นย้ำระเบียบว่าด้วยการจัดงานในวัด เครือข่ายฯจึงขอสนับสนุนมติดังกล่าว และทางฝ่ายบ้านเมืองควรเร่งดำเนินการเพื่อหนุนเสริมงานของคณะสงฆ์ โดยเครือข่ายฯ มีข้อเรียกร้อง ดังนี้
1.ในระดับประเทศ ขอให้ท่านได้ประสานกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม ระดมพลังประกาศนโยบายส่งเสริมค่านิยมแบบอย่างที่ดีโดยงดการจัดเลี้ยง ดื่มแอลกอฮอล์ในงานบวช งานบุญรวมทั้ง รูปแบบพิธีกรรม งานรื่นเริงต่างๆ ให้เหมาะสมกับมติมหาเถรสมาคม
2.ในระดับพื้นที่ ขอให้ฝ่ายราชการโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย และชุมชน ในพื้นที่ช่วยประสานกับผู้บริหารคณะสงฆ์ในแต่ละจังหวัด หรืออำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ให้มีการหารือประชุมให้เป็นมติร่วมกันในการจัดงานบวชและงานบุญที่เน้นแก่นแท้ งดการจัดเลี้ยง และการดื่มแอลกอฮอล์
3.สนับสนุนยกย่อง เจ้าภาพที่จัดงานบวชไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่มีรถแห่ขบวนบวชนาคเสียงดัง เป็นการบวชแบบเรียบง่าย ประหยัด
4.สนับสนุนการบังคับใช้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กำหนดให้วัดเป็นสถานที่ ห้ามดื่ม ห้ามขาย อย่างจริงจัง
5.ขอเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง มิให้มีการกระทำการที่เสื่อมเสีย ทำลายเจตนารมณ์พุทธศาสนา รวมถึงการทำผิดกฎหมายในงานบวชงานบุญ หากพบเหตุให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น สถานีตำรวจ สำนักงานสาธารณสุข ตลอดจนสำนักงานพระพุทธศาสนา
ขณะที่พระครูสุมณฑธรรมธาดา คณะกรรมการดำเนินงาน เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาสังฆะเพื่อสังคม กล่าวว่า ขอสนับสนุนมติของมหาเถระสมาคม ทั้ง 7ข้อห้ามในวัด นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี2537 กว่า20 ปีแล้ว ในในทางปฏิบัติยังอ่อนแออยู่มาก ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันปฏิบัติตาม อย่าให้ต้องนำกฎระเบียบออกมาย้ำทุกปี เพราะแนวทางการจัดงานบุญงานบวช ไม่ควรมีเหล้าอบายมุขของมึนเมาเข้ามาเกี่ยวข้อง ควรเป็นบุญที่บริสุทธิ์ และอยู่ในบวร บ้าน วัด โรงเรียน 3 เสาหลักที่คอยหล่อหลอมคนในสังคม
"ระเบียบต่างๆจะสำเร็จได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ทั้งพระสงฆ์ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายการศึกษา ฝ่ายปฏิบัติ ต้องช่วยกันลบค่านิยมบวชแฝงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่าให้มองเป็นเรื่องปกติ แยกโทษแยกบุญแยกบาปให้ออก เราต้องช่วยกันรักษาศิลรักษากฎหมาย และวัฒนธรรมที่ดี อย่าให้อะไรที่เสื่อมถอยตกไปถึงลูกหลาน ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่างานบุญเปื้อนบาปไม่มีทางจะเข้าถึงบุญ และสุ่มเสี่ยงต่อความผิดตามกฎหมาย สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทะเลาะวิวาท ซึ่งมีข่าวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง มันไม่คุ้มกันเลย ยิ่งงานไหนเกิดความสูญเสียขึ้นเจ้าของงานก็คงทุกข์ใจไม่น้อย ซ้ำยังเป็นการบั่นทอนกัดกร่อนพุทธศาสนาอีกด้วย จึงอยากให้ชุมชน ชาวบ้านปรับเปลี่ยนวิธีคิดกันใหม่ร่วมกันทำบุญด้วยสติ เข้าถึงธรรมะอย่างแท้จริง"พระครูสุมณฑธรรมธาดา กล่าว