posttoday

ลูบคม!รวบ2ผัวเมียแสบ ปลอมไลน์ ผบ.ตร.-บิ๊กโจ๊ก หลอก10ตำรวจวิ่งเต้นซื้อเก้าอี้

01 มีนาคม 2562

ตำรวจ รวบ 2 สามี ภรยยา ปลอมไลน์ ผบ.ตร.-บิ๊กโจ๊ก หลอกวิ่งเต้นซื้อขายเก้าอี้ มี 10 ตำรวจ ตกเป็นเหยื่อ ได้เงิน กว่าล้านบาท

ตำรวจ รวบ 2 สามี ภรยยา ปลอมไลน์ ผบ.ตร.-บิ๊กโจ๊ก หลอกวิ่งเต้นซื้อขายเก้าอี้ มี 10 ตำรวจ ตกเป็นเหยื่อ ได้เงิน กว่าล้านบาท

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.  พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท.ในฐานะโฆษกปอท. แถลงการจับกุมนายกิตติศักดิ์ สิริวิทยาวงศ์ และ น.ส.ไพลิน วีอูบแก้ว 2 สามีภรรยาเจ้าของโรงงานอลูมิเนียม ผู้ต้องหาปลอมแปลงบัญชีไลน์อ้างตัวเป็น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) หลอกลวงข้าราชการตำรวจว่า สามารถช่วยวิ่งเต้นเลื่อนตำแหน่งได้ในการแต่งตั้งโยกย้าย สารวัตร-รองผู้บังคับการ  วาระประจำปี 2561 ด้วยการเรียกรับเงิน พร้อมตั้งบัญชีรับโอนเงินด้วย

พล.ต.ท.สุทิน กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายเพิ่งเริ่มก่อเหตุมาไม่นาน โดยลงมือกระทำเนื่องจากมีปัญหาทางการเงินที่ใช้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบกับรู้ระบบตำรวจ จึงวางแผนปลอมไลน์เป็น ผบ.ตร. และ ผบช.สตม. ก่อนประสานคนกลางให้ติดต่อผู้เสียหาย ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจกว่า 10 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 1.5 ล้านบาท

"พบว่าผู้ต้องหาใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ โดยใช้ชื่อและภาพโปรไฟล์ เป็น ผบ.ตร.   ผบช.สตม. จากนั้นได้ทำการติดต่อไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยอ้างว่าสามารถช่วยวิ่งเต้นตำแหน่งทางราชการ เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นและโยกย้ายอยู่ในพื้นที่ที่ดีได้ โดยผู้ต้องหาจะใช้วิธีพูดคุยและชักชวนเนื่องจากรู้เรื่องระบบตำรวจเป็นอย่างดี ทำให้มีข้าราชการตำรวจ กว่า 10นายหลงเชื่อและโอนเงินให้รวมกว่า 1.5ล้านบาท" ผบช.ก.กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ไพบูลย์ ผบก.ปอท.กล่าวว่า การกระทำผิดในลักษณะนี้ เข้าข่ายข้อกฎหมายมาตรา 14(1) ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  "นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชนฯ” ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานฉ้อโกง อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนด้วยว่า ทุกการกระทำผิดบนโลกออนไลน์จะทิ้งร่องรอยไว้ทั้งสิ้น ซึ่ง บก.ปอท.สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ แต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับร่องรอยที่คนร้ายทิ้งไว้

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจาก ได้มีข้าราชการตำรวจบางรายที่โอนเงินให้แล้วรู้สึกเอะใจ จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับ บก.ปอท. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมประสานไปยังชุดสืบสวน บก.น.7 ดำเนินการจับกุมได้ในย่านธนบุรี มาคดีตามกฎหมาย

"เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 กพ.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปอท. พร้อมตำรวจ บก.สส.บก.น.7 นำหมายจับกุม เลขที่ 312/2562 ลงวันที่ 23 ก.พ. ข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความเสียหายแก่ประชาชนฯ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) จับกุม 2 ผู้ต้องหา คือนายกิตติศักดิ์ และน.ส.ไพลิน  สองผัวเมียเจ้าของธุรกิจอะลูมิเนียม โดยจับกุมได้ที่ ลานจอดรถห้างเดอะมอลล์บางแค ก่อนนำไปค้นที่พัก 3 แห่ง 1.บ้านพักในหมู่บ้าน ในซอยเอกชัย 76 2.คอนโดตรงข้าม ตลาดบางแค และ3.บ้านพักในหมู่บ้านมัณฑนา เลียบถนนกัลปพฤกษ์ ยึดคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ มาทำการตรวจสอบ"โฆษกปอท.กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีนโยบายการวิ่งเต้นรับตำแหน่งแต่อย่างใด ยืนยันว่ากรณีนี้ทาง ผบ.ตร. จะเอาผิดทั้งส่วนตัวและทางคดี โดยต่อจากนี้ จะมีการหารือกับผู้ที่รับผิดชอบงานทางด้านวินัยว่า จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนตำรวจที่ร่วมวิ่งเต้นในลักษณะดังกล่าวมีโทษทางวินัยอย่างไรบ้างต่อไป

"อยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์แก่ข้าราชการตำรวจว่าไม่มีใครช่วยท่านได้โดยเฉพาะการตกเบ็ด อยากให้ข้าราชการตำรวจตั้งใจทำงาน ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกรอบอยู่แล้ว ส่วนข้าราชการตำรวจที่หลงตกเป็นเหยื่อ ยังต้องมีการหารือกับผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานวินัย เพราะต้องมองเป็น 2 ส่วน ว่าตนเองตกเป็นเหยื่อ หรือมีส่วนรับรู้ด้วยหรือไม่อย่างไร ซึ่งต้องอยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน"รองโฆษกตร.กล่าว

ภาพ สวพ.91