posttoday

ยกทีม!ศาลส่ง24ผู้ต้องหาถล่มรร.มัธยมวัดสิงห์เข้าเรือนจำและสถานพินิจฯ

26 กุมภาพันธ์ 2562

ศาลเยาวชนฯส่งตัว“4โจ๋”ร่วมถล่มรร.มัธยมวัดสิงห์คุมตัวสถานพินิจฯ30วันส่วนอีก20ผู้ต้องหาศาลอาญาธนบุรีให้ฝากขังไว้ที่เรือนจำ

ศาลเยาวชนฯส่งตัว“4โจ๋”ร่วมถล่มรร.มัธยมวัดสิงห์คุมตัวสถานพินิจฯ30วันส่วนอีก20ผู้ต้องหาศาลอาญาธนบุรีให้ฝากขังไว้ที่เรือนจำ 

เมื่อวันที่ 26 ก.พ.62 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถ.กำแพงเพชร พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ได้นำตัวเยาวชนชายอายุ 16 ปี 2 คน และอายุ 17 ปี อีก 2 คน ที่ร่วมกับกลุ่มชายฉกรรจ์งานบวชพระวัดสิงห์ ไปทำร้ายร่างกายอาจารย์และนักเรียนที่สอบ GAT PAT  ในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ไปยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง ควบคุมตัวระหว่างสอบสวน ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 71 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134  โดยพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว

ขณะที่ศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน

โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุที่จะให้ศาลออกหมายควบคุมตัวระหว่างสอบสวน และเมื่อพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีแล้วการกระทำผู้ต้องหาทั้งสี่ อาจเป็นภัยร้ายแรงต่อผู้อื่น หรือเกรงว่าจะหลบหนี โดยเมื่อศาลคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิและประโยชน์สูงสุดของผู้ต้องหาแล้ว จึงมีคำสั่งให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ไว้ระหว่างสอบสวน ไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร มีกำหนด 30 วันตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.- 26 มี.ค. นี้โดยเมื่อครบกำหนดแล้วให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้งสี่นั้น ถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ อายุตั้งแต่ 18 ปีเศษ ถึง 41 ปี รวม 20 คน พนักงานสอบสวนสน.บางขุนเทียนควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.-9 มี.ค.62 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา พร้อมคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 20 คน เนื่องจากพฤติการณ์ของผู้ต้องหากระทำการด้วยความอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ลักษณะเป็นภัยต่อสังคม เกิดผลกระทบกระเทือนต่อสังคมโดยรวม หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง

ต่อมาญาติของผู้ต้องหาทั้ง 20 คนได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว กระทั่งเวลา 16.00 น.เศษศาลพิจารณาคำร้องและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า"พฤติการณ์ตามคำร้องขอฝากขังผู้หาบ่งชี้ว่าผู้ต้องหากับพวกไม่เคารพกฎหมาย หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหากับพวกอาจก่อภยันตรายแก่พยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ทำให้เกิดความเสียหายแก่การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน กรณียังไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา" จึงมีคำสั่งยกคำร้อง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวกลุ่มผู้ต้องหาไปควบคุมตัวยังเรือนจำพิเศษธนบุรี ย่านบางบอนระหว่างฝากขังต่อไป

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 20 รายประกอบด้วย นายมนตรี พูลทรัพย์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 , นายธวัช สดำพงษ์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 , นายธิติ ไวยสุกรี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 , นายอนุกูล สังข์ศรี อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 5, นายเอกลักษณ์ พูลทรัพย์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ 6 , นายศรายุทธ นุชแฟง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ 7, นายขวัญชัย สุขเสมอ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ 8 , นายเมืองแมน นิลโพธิ์ทอง อายุ 18 ปี เศษ ผู้ต้องหาที่ 9,นายจิรายุทธ อาจอาสา อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ 10 , นายวรภัทร พินิจปรีชา อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ 11 , นายจีรศักดิ์ นีละเสวี อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ 12 , นายวิโรจน์ คำชาย อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ 13 , นายชาติสยาม จันทรวิภาค อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ 14 , นายไน้ท จ้อยเจริญ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ 15 ,  นายสมชาย แก้วสิมมา อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ 16 , นายชัชศิริ แซ่โง้ว อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่ 17 , นายณัฐพงศ์ นุชแฟง อายุ 18 ปี เศษ ผู้ต้องหาที่ 18 , นายชนะชัย ใจหล้า อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ 19 , นายดลราม เก่งวิชา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ 20 ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป , ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต หรือร่างกายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้นั้นต้องจำยอม โดยร่วมกันกระทำการตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายฯ ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(1)(2) , 358 , 295 , 309 วรรคสอง , 215 และพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ โดยผู้ต้องหาทั้ง 19 คนให้การภาคเสธ

ส่วนนายวัลลภ นุชแฟง หรือ เอกไฝ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา มาตรา 365(1)(2) , 358 , 295 , 309 วรรคสอง , 215 และพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ และกระทำอนาจารกับบุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายโดยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 278 , 281 โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและภาคเสธ