อ.เจษฎา เตือนแสงหน้าจอสว่างเกินทำกระจกตาเป็นรู แนะตั้งค่าปรับออโต้เพื่อถนอมดวงตา

ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ เตือนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเสี่ยงตาอักเสบหากปรับค่าแสงสว่างหน้าจอสูง หลังพบสาวไต้หวันตาอักเสบมีเลือดคั่งและกระจกตาเกิดรูกว่า 600 รู

สืบเนื่องจากกรณีเกิดการแชร์และส่งต่อถึงภัยจากหน้าจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของหญิงสาวรายหนึ่งชาวไต้หวัน ซึ่งมีพฤติกรรมตั้งค่าปรับแสงสว่างหน้าจอในระดับเต็มแม็กเป็นเวลากว่า 2 ปี ส่งผลให้ตาอักเสบและมีเลือดคั่งในตา ก่อนที่จะพบว่ากระจกตาเกิดรูเล็กๆ ที่ชั้นเซลล์อีพิธีเลี่ยมกว่า 500-600 รู ต้องรักษาโดยให้สเตียรอยด์แก้อาการอักเสบและให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย

โดยรศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ระบุว่าได้เช็คจากเรื่องดังกล่าวแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุอาการว่าเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่แสงสว่างจ้ามากเป็นเวลานานร่วมกับการจ้องมองโทรศัพท์มือถือกลางแสงแดดจ้า โดยเธอใช้แสงสว่างจากหน้าจอสูงถึง 625 ลูเมนส์ ซึ่งสูงกว่าที่แนะนำในระดับความปลอดภัยของดวงตาที่ 300 ลูเมนส์ พร้อมกันนั้นยังจ้องมองเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้เกิดปัญหากับดวงตาตั้งแต่มีอาการเหมือนสายตาสั้นลง ตาแดง ตาเมื่อยล้า ตาแห้งรุนแรง รวมไปจนถึงเกิดแผลที่กระจกตาได้ ทั้งนี้หากนานไปเข้าก็จะก่อให้เกิดโรคต้อกระจกได้อีกด้วย 

ทั้งนี้แม้ว่าจะยังมีข้อมูลอีกด้านที่เห็นต่างว่าแสงสะท้อนจากหน้าจอโทรศัพท์ที่เปิดใช้กลางแดดนั้นไม่ได้สร้างความร้อนที่รุนแรงขนาดจะทำให้เป็นอันตรายกับดวงตา เนื่องจากหากมีความรุนแรงจอภาพคงไหม้ไปด้วย และถ้าคนไข้มีอาการตาแห้งรุนแรงถึงระดับ 3 ซึ่งมักเกิดขึ้นจากการที่จ้องมือจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารเป็นเวลานานโดยไม่กระพริบตา โปรตีนต่างๆ ในดวงตาก็จะเกิดความเสียหายด้วยไม่ใช่แค่เฉพาะชั้นอีพิเดอร์มิสของกระจกตา

อย่างก็ตามถึงแม้ว่ายังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการได้รับแสงมากเกินไปจะเป็นการทำลายดวงตาแต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของประเทศไต้หวันต่างก็เห็นด้วยทั้งหมดในเรื่องการป้องกันว่า

1.ควรปรับตั้งค่าออโต้ความสว่างของแสงหน้าจอโทรศัพท์ให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมแต่ละที่

2.ถ้าใช้ในเวลากลางคืนไม่ควรที่จะปิดไฟในห้อง เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา

3.อย่าจ้องมองหน้าจอมือถือเป็นเวลานานเกินไป