posttoday

ยกฟ้อง " โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่" พ้นผิดชุมนุมปี57

21 กุมภาพันธ์ 2562

ศาลยกฟ้อง "ทศพล แก้วทิมา" โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ อดีตแกนนำปฏิรูปพลังงาน พ้นผิดชุมนุมหน้า "เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์" เมื่อปี 57 ศาล ชี้ ชุมนุมโดยสงบ

ศาลยกฟ้อง "ทศพล แก้วทิมา" โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ อดีตแกนนำปฏิรูปพลังงาน พ้นผิดชุมนุมหน้า "เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์" เมื่อปี 57 ศาล ชี้ ชุมนุมโดยสงบ

เมื่อวันที่ 21 กพ. ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ. รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.2546/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง "นายทศพล แก้วทิมา" โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ และอดีตแกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานมั่วสุม กันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, 358

โดยอัยการยื่นฟ้อง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.57 เวลากลางวัน จำเลยกับนายธวัชชัย พรหมจันทร์ กระทำการมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป (ประมาณ 250 คน) โดยการร่วมกันชุมนุมเดินทางด้วยรถยนต์บรรทุกหกล้อติดเครื่องกระจายเสียง 1 คัน และรถยนต์กระบะกับรถจักรยานยนต์จำนวนหลายคัน ภายใต้การควบคุมสั่งการของจำเลยกับพวกอีก 2 คน มาทำการปิดล้อม บริเวณหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ที่ทำการของบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด และจำเลยกับพวกอีก 1 คน ที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ทำหน้าที่แกนนำ เป็นหัวหน้าและมีหน้าที่สั่งการสลับกันขึ้นปราศรัยบนรถติดเครื่องกระจายเสียง มีเนื้อหาว่าจะเข้ายึดพื้นที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงพลังงาน แต่จะไม่เข้าไปในตัวอาคารและจะใช้สถานที่และห้องน้ำของอาคารจอดรถ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการให้มีการปฏิรูปพลังงานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้บังอาจทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า และทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งแผ่นแบริเออร์คอนกรีต จำนวน 1 แผ่น ราคา 1,700 บาท แบริเออร์พลาสติกสีส้ม จำนวน 4 แผ่น ราคา 2,000 บาท กระจกที่ติดป้อมรักษาความปลอดภัย จำนวน 3 บาน ราคา 5,000 บาท ฐานปูนติดตั้งแผ่นบอกทางเข้า จำนวน 1 อัน ราคา 800 บาท ผ้าใบปิดรั้ว จำนวน 1 แผ่น ราคา 50,000 บาท รวมราคาทรัพย์ทั้งสิ้น 59,500 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ของ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด ผู้เสียหาย เหตุเกิดที่แขวง-เขตจตุจักร กทม.จำเลยให้การปฏิเสธ

โดยวันนี้ นายทศพล จำเลย ซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณา เดินทางมาศาลพร้อมฟังคำพิพากษา

ขณะที่ "ศาล" พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว เห็นว่า จำเลยกับผู้ชุมนุมได้ชุมนุมและปราศรัยเรียกร้องให้มีการปฏิรูปพลังงาน โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยกับผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และยังก็ได้ความว่า ผู้ชุมนุมอยู่ที่ประตู 8 เพียงประตูเดียว ประชาชนยังสามารถเข้าออกประตูอื่นได้ ถือเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากการใช้กำลังประทุษร้าย
 
ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินนั้น มาจากการที่ผู้ชุมนุมขยับแบริเออร์ แล้วแบริเออร์ที่ติดกันล้มไปกระแทกทรัพย์สินเสียหาย อันเกิดจากความประมาทของผู้ชุมนุมเอง ขาดเจตนาทำให้ทรัพย์สินเสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิดอาญา พิพากษายกฟ้อง

ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว "นายทศพล" กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลให้ความเป็นธรรมกับตน ยืนยันการชุมนุมที่ผ่านมามีเจตนาชัดเจน คือต้องการให้รัฐแก้ปัญหาพลังงานเท่านั้น  เพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นตนขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรหันมาดูแลปากท้องประชาชนมากกว่าเรื่องความมั่นคง และในยุคนี้ไม่มีใครกล้าทำลายประเทศอย่างแน่นอน