รร.ปิดห่วงสุขภาพเด็กเล็ก28-29ม.ค.ฝุ่นหนักอีกระลอก

สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 พื้นที่ กทม.และปริมณฑลประจำวันที่ 23 ม.ค.เพิ่มขึ้นเกินค่ามาตรฐานรวม 17 พื้นที่และมีแนวโน้มต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ก.พ.

ชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานที่กำลังเผชิญเกือบทั่วพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำให้สถานศึกษาหลายแห่งเริ่มออกประกาศปิดการเรียนการสอน เพราะกลัวจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้รับรายงานว่า มีโรงเรียนเอกชน 2 แห่ง คือ 1.โรงเรียนเพลินพัฒนา เขตทวีวัฒนา 2.โรงเรียนรุ่งอรุณ เขตบางขุนเทียน ที่ประกาศปิดการศึกษาชั่วคราว ระหว่างวันที่ 23-25 ม.ค. 2562 เนื่องจากผลกระทบสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5

สนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานว่ามีโรงเรียนในสังกัด สพฐ.โรงเรียนใดแจ้งเรื่องการปิดการเรียนการสอน จากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่หากผู้อำนวยการโรงเรียนพิจารณาแล้วเห็นว่าสถานการณ์ฝุ่นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนและครู ก็มีอำนาจในการสั่งงดกิจกรรมกลางแจ้งที่เห็นว่าไม่เหมาะสม หรือสั่งปิดการเรียนการสอนชั่วคราวได้ไม่เกิน 7 วัน

สุนิสา ชื่นเจริญสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนรุ่งอรุณ ได้ออกประกาศให้ผู้ปกครองทราบ เรื่องการหยุดเรียนชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เนื่องจากปัญหาฝุ่นละอองใน กทม.ยังคงมีค่าสูงกว่ามาตรฐาน มีผลกระทบ ต่อสุขภาพของคนทั่วไป และแม้ครูประจำชั้นได้กำชับให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัยตลอดทั้งวัน แต่ในสถานการณ์จริงพบว่าการให้เด็กเล็กสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากขนาดสรีระของเด็กไม่เหมาะกับหน้ากากอนามัย และการจำกัดกิจกรรมไว้แต่ในห้องเรียน ทำให้เด็กเกิดความเครียด

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็กเล็กที่มีส่วนสูงและ น้ำหนักน้อย ทำให้ขนาดของหลอดลมและความจุอากาศของปอดน้อย

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ (ทส.) แถลงว่า ปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับ 1-2 ซึ่งหน่วยงานรัฐได้ปฏิบัติตามมาตรการเพื่อลดปริมาณฝุ่นแล้ว แต่ค่าฝุ่นยังขึ้นและลงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผล กระทบต่อสุขภาพ หากสถานการณ์ฝุ่นวิกฤตไประดับที่ 3 คือ มีค่าฝุ่นเกิน 90 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกัน 3 วัน ครอบคลุมทั้งพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการ กทม. และพื้นที่ปริมณฑล ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ และมีอำนาจยุติกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษได้ทันที

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนระดับที่ 4 หากดำเนินการทั้ง 3 ระดับแล้ว ค่าฝุ่นยังเกิน 90 มคก./ลบ.ม. จะเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พิจารณามาตรการแก้ปัญหาเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม สั่งการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อระงับหรือลดปริมาณฝุ่นละออง

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการควบคุมมลพิษ ซึ่งมี วิจารย์ สิมาฉายา ปลัด ทส.เป็นประธาน ร่วมประชุมกับผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อกลั่นกรองค่าฝุ่นละอองในขั้นวิกฤตระดับ 3 จาก 90 มคก./ลบ.ม. เป็น 70 มคก./ลบ.ม. หรือไม่ หากเห็นชอบจะเสนอให้ นายกฯ เพื่อให้ผู้ว่าฯ กทม. ดำเนินตามอำนาจดังกล่าวต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนมาตรการการฉีดพ่นละอองน้ำ ทส.จะร่วมกับภาคเอกชนทำการทดลองฉีดพ่นละอองน้ำที่มีขนาดเล็กพอๆ กับโมเลกุลฝุ่น PM2.5 ในบริเวณชั้น 20 ของตึก ทส.เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นที่อาจกลับมารุนแรงอีกครั้งในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ ทังนี้หากใช้ได้ผลดีจะนำไปใช้ในพื้นที่อื่นต่อไป

สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 พื้นที่ กทม.และปริมณฑลประจำวันที่ 23 ม.ค.เพิ่มขึ้นเกินค่ามาตรฐานรวม 17 พื้นที่

บรรยายภาพ - บรรยากาศโรงเรียนเด็กเล็กอนุบาลโรงเรียนทรงวิทยา จ.สมุทรปราการ ที่ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นควัน มาเรียนเมื่อวันที่ 23 ม.ค. - ภาพ : สมชาย ภูมิลาด