posttoday

สนช.เห็นชอบกฎหมายจราจรใหม่วาระ1 เมาขี่จักรยานเจอจับปรับ500

17 มกราคม 2562

สนช.รับหลักการกฎหมายจราจรใหม่ เพิ่มอำนาจผบ.ตร.เพิกถอนใบขับขี่คนทำผิดซ้ำซาก ห้ามขี่จักรยานขณะเมาบนทางสาธารณะฝ่าฝืนปรับ500

สนช.รับหลักการกฎหมายจราจรใหม่ เพิ่มอำนาจผบ.ตร.เพิกถอนใบขับขี่คนทำผิดซ้ำซาก ห้ามขี่จักรยานขณะเมาบนทางสาธารณะฝ่าฝืนปรับ500

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติ157 คะแนนรับหลักการในวาระที่ 1 ของร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่...) พ.ศ.... เพื่อแก้ไขพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ

สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ คือ การห้ามไม่ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานขับขี่ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น และกำหนดเจ้าพนักงานจราจรยึดใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่อยู่ในสภาพที่ขับรถต่อไปได้ หากเจ้าพนักงานจราจรเห็นว่าผู้ขับขี่อยู่ในสภาพที่หากให้ขับรถต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น โดยให้คืนใบอนุญาตขับขี่เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในสภาพที่ขับรถต่อไปได้

นอกจากนี้ กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งจัดให้มีข้อมูลและการประสานงานข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและการกระทำความผิดตามกฎหมาของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกแบะกฎหมายอื่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ อธิบดีกรมการขนส่ง ร่วมกันกำหนดระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ โดยหากผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ถูกตัดคะแนนจนหมด ให้ผบ.ตร.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผบ.ตร.สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 90 วัน ถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ถูกตัดแต้มจนหมดต้องการได้คะแนนกลับคืนมา จะต้องเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการขับรถและวินัยจราจรตามที่ผบ.ตร.และอธิบดีกีรมการขนส่งทางบกกำหนด

ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ถูกสั่งพักใช้ในอนุญาตขับขี่เกิน 2 ครั้งภายในระยะเวลา 3 ปีนับแต่วันวันที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ครั้งแรก ผบ.ตร.หรือผู้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าที่ได้รับมอบหมายจากผบ.ตร. มีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เกินกว่า 90 วันได้ และถ้าปรากฎว่าผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่เคยถูกสั่งยึดหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ตามกฎหมายด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกมาแล้ว และได้มากระทำความผิดและถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ตามพ.ร.บ.จราจรทางบกอีกภายในระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันที่พ้นกำหนดระยะเวลาที่ถูกสั่งยึดหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ผบ.ตร.หรือผู้ดำรงตำแหน่ไม่ต่ำกว่าผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าที่ได้รับมอบหมายจากผบ.ตร. มีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ได้

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะคณะกรรมการแก้ปัญหาการจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อที่ประชุมสนช.ว่า บทบัญญัติที่เพิ่มเติมในเรื่องการห้ามผู้เมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นขี่จักรยานนั้นเพื่อแก้ปัญหากรณีที่เจ้าพนักงานจับผู้เมาสุราขณะขี่จักรยาน แต่กลับไม่สามารถส่งฟ้องศาลได้เพราะเดิมกฎหมายไม่ได้กำหนดความผิดดังกล่าวเอาไว้ ผู้ขี่จักรยานบนทางสาธารณะและอยู่ในอาการมึนเมา อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเพียงการปรามไม่ให้ก่ออันตรายเท่านั้น เพราะลงโทษเป็นค่าปรับเพียง 500 บาท

พล.ต.ต. เอกรักษ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ปัญหาการขับขี่รถช้าในช่องจราจรทางขวา จะพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงโดยให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับแก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดอัตราความเร็วตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกให้เหมาะสมตามสภาพการจราจรและยานพาหนะ

เบื้องต้นเสร็จไปแล้ว 95% สาระสำคัญ คือ จะเพิ่มความเร็วบนถนนให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นทั้งกรณีบนทางด่วนและทางปกติ ส่วนผู้ที่ขับช้าอยู่ในเลนขวาสุด จะกำหนดความเร็วให้เหมาะสม เพื่อแก้ปัญหาคนขับรถช้าแต่อยู่ทางขวาต่อไป