ฝุ่นเมืองกรุงลากยาวถึง มี.ค. หวั่น กระทบ เด็กนร.-เร่งปูพรมฉีดน้ำ

โดย...นายอักษร

สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ยังคงปกคลุมทั่วพื้นที่ กทม.และปริมณฑลอย่างหนัก และเกินกว่าค่ามาตรฐานน 30 พื้นที่ โดยกรมควบคุมมลพิษ รายงานการตรวจวัดค่าพื้นที่ริมถนนได้ 55-78 มคก./ลบ.ม. อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินค่ามาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 18 พื้นที่ พื้นที่ทั่วไปวัดได้ 46-82 มคก./ลบ.ม. อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินค่ามาตรฐาน 12 พื้นที่

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า สาเหตุสำคัญที่เกิดฝุ่นละออง PM2.5 60% เกิดจากรถเก่าเครื่องยนต์ดีเซล จากนี้จะกำหนดเวลาห้ามรถใหญ่เข้ามาวิ่งในเขตเมืองตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. รวมทั้งขอความร่วมมือจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งจะระดมฉีดน้ำล้างถนน และฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันนี้เป็นต้นไป โดยจะทำอย่างต่อเนื่อง ทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

"ยอมรับว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะปัญหานี้เกิดขึ้นทุกวัน แต่สถานการณ์เกิดรุนแรงในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในวันที่ 19 ม.ค.นี้ จะทำการบินทำฝนหลวงได้ โดยจะไปทำที่ จ.ระยอง ก่อเมฆให้ลมพัด เข้ามาสู่กรุงเทพฯ นอกจากนี้สำนักการโยธาได้ขอความร่วมมืออาคารสูงใน พื้นที่กรุงเทพฯ ฉีดน้ำเป็นละอองฝน ลงมาช่วยลดฝุ่นละอองด้วย ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์จากสภาพอากาศ คาดว่าจะอยู่ไปจนถึงเดือน ก.พ. ถึงต้นเดือน มี.ค.

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะรวบรวมหน้ากากป้องกันฝุ่น N95 จำนวน 1 หมื่นชิ้น แจกจ่ายให้ประชาชนในจุดที่มี ค่าฝุ่น PM2.5 สูง อาทิ สวนลุมพินี บางขุนเทียน จตุจักร ราชประสงค์

ประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่ง แก้ปัญหา เพราะอยู่ในระดับเริ่มมีผล กระทบต่อสุขภาพ โดยคาดว่าในวันที่ 15 ม.ค. อาจมีโอกาสจะทำฝนเทียมได้ และได้ประสาน กทม.ในทุกเขตให้กวาดล้างถนนอย่างเข้มข้นทุกวัน

"เชื่อว่าสถานการณ์ PM2.5 ในปีนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต และเราเอาอยู่ ขอให้ประชาชนมีความตระหนักแต่อย่าตระหนก เพราะสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงเท่ากับปี 2561 ที่ผ่านมา" ประลอง กล่าว

บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำชับให้ผู้บริหารและสถานศึกษาในสังกัดกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ป้องกันสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อดูแลนักเรียนอย่างทั่วถึง โดยให้พิจารณาว่าหากกิจกรรมใดที่ทำให้เด็กได้รับฝุ่น หรือโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองมาก ก็ขอให้เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

ชลำ อรรถธรรม โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ ศธ. รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น และหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้นักเรียนได้รับผล กระทบ และในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กำลังหามาตรการป้องกันให้กับนักเรียนในสังกัด ซึ่งมีนักเรียนอายุน้อยที่อยู่ในระดับชั้นเตรียมอนุบาล ระดับชั้นอนุบาลเป็นจำนวนมาก ต้องเร่งหาข้อมูลว่าฝุ่นละอองนี้จะส่งผลเสียอย่างไรกับเด็ก และรีบออกมาตรการป้องกันออกมา เช่น ไม่ให้เด็กเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง

เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนไปยังสถานศึกษาและโรงเรียนในสังกัดกว่า 3 หมื่นแห่ง ยึดหลักปฏิบัติกระทรวงสาธารณสุข พร้อมขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือกิจกรรมที่ต้องเผชิญฝุ่นละออง

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 1 กรมการทหารช่าง และหน่วยทหารในพื้นที่ กทม. เตรียมรถบรรทุกน้ำและรถดับเพลิงจำนวน 60 คัน เพื่อฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ กทม.ในช่วงกลางคืน ระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค. เน้นปฏิบัติตามถนนสายหลักใน กทม.ที่มีการจราจรหนาแน่น รวมถึงบริเวณถนนสายธุรกิจ อาทิ สีลม สาทร วิทยุ ประตูน้ำ เพื่อลดการกระจายตัวของฝุ่นละอองที่จะมีผลต่อสุขภาพ