จี้กรุงเทพคริสเตียนทบทวนแต่งไพรเวท

สช.ทำหนังสือถึงโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ ให้ทบทวนแต่งชุดไพรเวท ห่วงผลกระทบด้านระเบียบวินัย รวมถึงบริบทสังคมไทย ด้าน รมว.ศธ.ยันไม่คิดควบคุม

นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้มีหนังสือแจ้งไปยังโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ขอให้โรงเรียนทบทวนการอนุญาตให้เด็กนักเรียนแต่งชุดไพรเวทมาเรียนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งแม้โรงเรียนได้ชี้แจงว่าเป็นการทดลองทำวิจัยเรื่องการแต่งเครื่องแบบนักเรียน แต่ สช.ก็ห่วงใยเรื่องความมีระเบียบ วินัย ความเรียบร้อย ผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของ ผู้ปกครอง การดูแลเด็กของครู บริบทของสังคมไทย และปัญหาสังคมรวมถึงปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งโรงเรียนต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย

นายชลำ กล่าวว่า ทางโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ จะต้องไปหารือกับคณะกรรมการสถานศึกษาและแจ้งผลการ หารือกลับมาที่กระทรวงศึกษาธิการ เพราะการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนเอกชน ก็ยังมีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 กำกับไว้

ทั้งนี้ โดยปกติแล้วชุดนักเรียนของโรงเรียนทั่วประเทศในสังกัด สช. ต้องระบุไว้ในระเบียบการของโรงเรียน ว่า ชุดต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง หากโรงเรียนจะกำหนดให้แต่งแตกต่างไปจากระเบียบการที่ได้แจ้งไว้ จะต้องทำหนังสือแจ้งให้ สช.รับทราบก่อนที่โรงเรียนจะดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น สช.ได้สอบถามเรื่องดังกล่าวพบว่าทีมผู้บริหารและครูได้หารือกันว่าต้องการทำวิจัยเรื่องการแต่งเครื่องแบบนักเรียน 6 สัปดาห์ แต่ก็อยากให้มองลึกลงไปกว่านั้นว่าในระหว่างการวิจัยจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง และถ้ามีผลกระทบก็ต้องทบทวน ส่วนโรงเรียนเอกชนอื่นหากอยากจะทำบ้างก็ควรคิดให้ดีว่าทำแล้วจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง ซึ่งกรรมการบริหารสถานศึกษาจะต้องมีความเข้มแข็งในเรื่องนี้

"การแต่งกายชุดไพรเวทมาเรียนทุกวันนั้นเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้แน่นอน เพราะจะมีปัญหาเรื่องอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ตอนนี้ต้องรอฟังคำตอบจากเขา จากที่ได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้มีการรับปากด้วยวาจา ว่าจะทบทวนเรื่องนี้ นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดโรงเรียน พูดคุยกันเรื่องความเหมาะสมของการทดลองหรืองานวิจัยดังกล่าว" นายชลำ กล่าว

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ไม่ควรนำเรื่องเครื่องแต่งกายมาเป็นประเด็นด้านการศึกษา เพราะผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ ได้พูดไว้ชัดเจนว่า เรื่องนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยทางโรงเรียนมีการศึกษาเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน มีการวางแผนรอบคอบ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็รับรู้และรับทราบ ไม่ใช่อยู่ๆ ต้องการที่จะดำเนินการก็ทำได้

ขณะที่ส่วนตัวยังไม่มีนโยบายที่จะไปควบคุมในเรื่องดังกล่าว เพราะหากมีการสั่งการอะไรลงไป อาจจะทำให้ ถูกมองว่ารัฐบาลบังคับเด็กอีก ดังนั้น เรื่องนี้จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่หลากหลาย จึงจำเป็นที่จะต้องดูเจตนาของคนที่ทำด้วย

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า  การแต่งกายกับการศึกษาต้องแยกจากกัน เหตุที่เราต้องมีชุดนักเรียนเพราะเป็นเรื่องของประเพณีและวัฒนธรรม ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แล้ว อีกทั้งพระองค์ยังเคยตรัสไว้ว่า การมีชุดนักเรียนนอกจากจะทำให้มีระเบียบวินัยแล้ว ก็ยังเป็นการลดการแบ่งชนชั้นระหว่างคนรวยและคนจน ไม่ใช่ว่าการมีชุดนักเรียนจะทำให้เรียนดีหรือเรียนไม่ดี

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ซึ่งเป็นโรงเรียนของรัฐไม่สามารถดำเนินการให้นักเรียนแต่งชุดไพรเวทมาเรียนได้ เนื่องจากมีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 กำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว