สรุปสำนวนแล้ว! ส่งฟ้องคดีอมเงินสหกรณ์ตำรวจเลยสัปดาห์นี้

ผบช.ภ.4 เผย สำนวนคดีอมเงินสหกรณ์ตำรวจเลยเสร็จสมบูรณ์แล้ว เตรียมส่งฟ้องในสัปดาห์นี้ ที่ศาลอาญากรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.พล.ต.ต.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4( ผบช.ภ.4 ลาพักร้อนและอยู่ที่ต่างประเทศ) เปิดเผยผ่านทางโทรศํพท์ว่า การสรุปสำนวนคดีการทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ที่คณะทำงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ บช.ภ.4 ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนั้น ขณะนี้สำนวนคดีใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงพนักงานสอบสวนที่ร่วมทำสำนวนคดีทั้งหมดทุกคน ลงลายมือชื่อในสำนวนเท่านั้น เพราะสำนวนในคดีมีมากกว่ากว่า 15,000 แผ่น

"คดีการทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย มีผู้เสียหายเป็นข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดเลยรวม 196 นาย รวมมูลค่าความเสียหาย 240 ล้านบาท ขณะเดียวกันแนวทางการสอบสวนนั้นยังคงพบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงเงินของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเชื่อมโยงกันเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ ครอบคลุมพื้นที่ จ.หนองบัวลำภูและ จ.ขอนแก่น และยังคงกระจายไปในหลายจังหวัดทั่วทั้งประเทศ โดยมีผู้เสียหายที่เป็นบุคคลภายและเชื่อมโยงกับคดีของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลยอีกหลายราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท ทั้งนี้การทำงานของทีมสืบสวนสอบสวนที่ผ่านมา ทำงานร่วมกันเป็นทีม และนำคดีของตำรวจและคดีแชร์ลูกโซ่มารวมกัน เนื่องจากบุคคลที่ร่วมกันโกงนั้นเป็นกลุ่มเดียวกัน"ผบช.ภ.4กล่าว

ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เมื่อรวมคดีแล้ว พนักงานสอบสวน มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวกว่า 30 คนมารับทราบข้อกล่าวแล้วทั้งหมด ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงอันเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามพระราชหากำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งมีผู้ต้องหาสำคัญ ประกอบด้วย พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีต รอง ผบช.สกพ. และ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย , พ.ต.อ.เฉลิมพล ยอดประทุม (ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่ง ผกก.อก.ภ.จ.หนองบัวลำภู), น.ส.ธิญาดา วิภาวรกานต์ อายุ 40 ปี และ นายเกรียงไกร เกตพิบูลย์ อายุ 36 ปี โดยที่ในขณะนี้มีเพียว น.ส.ธิญาดา ที่ถูกออกหมายจับ และ หลบหนีการจับกุม ส่วนรายอื่นๆนั้น เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว การสืบสวนสอบสวนก็เสร็จสมบูรณ์ และพร้อมที่จะส่งสำนวนคดียื่นฟ้องศาลอาญาภายในสัปดาห์นี้