posttoday

คุก"ฟิล์ม รัฐภูมิ" 1ปี ปรับ 1 แสน เปิดบริษัทชำระเงินเถื่อน

06 ธันวาคม 2561

จำคุก 1 ปี ปรับคนละ 1 แสนบาท "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" กับพวก เปิดบริษัทชำระเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 5 หมื่น โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี บริการสังคม 24 ชม.

จำคุก 1 ปี ปรับคนละ 1 แสนบาท  "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" กับพวก เปิดบริษัทชำระเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต  ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 5 หมื่น โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี บริการสังคม 24 ชม.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีดำ อ.3090/61ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด โดยนายศราวุฒิ นนทะภา กรรมการผู้มีอำนาจ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ อายุ 33 ปี พระเอกนักแสดงชื่อดัง นายธเนศ จัตวาพรพานิช อายุ 43 ปีและนายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ อายุ 38 ปี ในฐานะกรรมการบริษัท ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันประกอบธุรกิจ บัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต”

กรณีเมื่อระหว่างเดือนต.ค. 2559 – 20 ก.พ. 2560 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสี่ บังอาจร่วมกันประกอบกิจการ ให้บริการแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ภายใต้ชื่อ ‘เพย์ออล’ (Payall) และสมัครสมาชิกเพื่อสร้างบัญชีของผู้ใช้บริการซึ่งระบบจะตั้งบริษัทสมาชิก รหัสผ่านในการใช้งาน และเติมเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารของจำเลยตามช่องทาง โดยระบบจะบันทึกจำนวนเงินที่เติม ตามมูลค่าของผู้ใช้บริการแต่ละราย รวมทั้งนำเงินที่ชำระไว้ล่วงหน้ามาชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่างๆแทนเงินสด

การกระทำของพวกจำเลย มีลักษณะร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการโอนสิทธิการถือครองเงิน และการโอนสิทธิการถอนเงิน หรือหักเงินผ่านบัญชีหรือแอพพลิเคชั่นของผู้ใช้บริการโดยไม่จำกัด และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 และบัญชีท้ายตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวง เขตห้วยขวาง กทม.

ทั้งนี้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะ ประวัติครอบครอบครัว การทำงานการศึกษา ของพวกจำเลย และอื่นๆเพื่อนำมาพิจารณาประกอบคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์ จำเลยทั้งหมดมีความจริงที่ประกอบกิจการบริษัทฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงพิพากษาให้จำเลยที่ 1 จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 2 แสน ส่วนจำเลยที่ 2 ถึง 4 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท แต่จำเลย ที่ 2 ถึง 4 รับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ  6 เดือน ปรับ คนละ 5 หมื่นบาท แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิด และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาเป็นเวลา  2 ปี และให้มารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ เป็นเวลา  1 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชม.