posttoday

รัฐบาลสั่ง "สคบ." เป็นเจ้าภาพปราบแชร์ลูกโซ่

03 ธันวาคม 2561

รัฐบาลไฟเขียวให้ "สคบ." เป็นเจ้าภาพจัดการปัญหาแชร์ลูกโซ่ หลังที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน

รัฐบาลไฟเขียวให้ "สคบ." เป็นเจ้าภาพจัดการปัญหาแชร์ลูกโซ่ หลังที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน

พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้สคบ.รับหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาเรื่องของแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานกลางเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบแก้ไขปัญหาจริงจัง ทำให้การจับกุมและแก้ไขปัญหาไม่มีประสิทธิภาพ การดำเนินการที่ผ่านมานั้น เป็นลักษณะเพียงประสานความร่วมมือของหลายๆ หน่วยงานเข้าด้วยกัน

ทั้งนี้ สคบ.เองหลังได้รับนโยบายแล้วจะเร่งเข้าไปดำเนินการโดยใช้อำนาจของเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโค(คคบ.) เข้าไปตรวจสอบ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงบางประเภทที่อาจเข้าข่าย หรือแฝงการทำธุรกิจในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ เมื่อพบการกระทบผิดก็จะส่งเรื่องต่อให้หน่วยงาน ที่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นรายกรณีไป หากกรณีใด สคบ.ดำเนินการได้ด้วยกฎหมายของ สคบ.ก็จะดำเนินการเอง

“ที่ผ่านมาประชาชนเข้าใจว่าทุกเรื่องทำไมสคบ.ไม่เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งความจริงแล้วสคบ.มีข้อจำกัดเรื่องข้อกฎหมาย ถ้าเข้าไปช่วยไม่ได้ก็อาจเข้าข่ายว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะข้าราชการ ดังนั้นจึงต้องมีอำนาจด้วย และพอรับนโยบายจากรมต.ชัดเจนแล้ว ก็ทำให้สคบ.มีโอกาสที่จะเข้าไปดูแลติดตามชัดขึ้น” พ.ต.อ.ประทีป กล่าว

พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า การทำดำเนินการกับปัญหาแชร์ลูกโช่ในระยะที่ผ่านมา มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น สคบ.กระทรวงการคลัง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่การดำเนินงานจริงๆ ก็ยังเป้นปลายทาง ยังไม่มีเจ้าภาพมาดูแล หลังจากนี้ สคบ.ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลธุรกิจขายตรงและตลาดแบบจะเป็นต้นทางที่จะเข้าไปดูแลอย่างจริงจัง

พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ สคบ.ได้มีการนัดประชุมเพื่อกำหนดแนวทางในการดูแลแก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่เป็นครั้งแรก เบื้องต้นได้มีการมอบหมายให้หลายหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการดูแลและติดตามปัญหา โดยเฉพาะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ประชุมได้ขอความร่วมมือให้ไปทำความเข้าใจกับตำรวจภูธรทุกจังหวัดทั่วประเทศ ห้ามปฏิเสธเรื่องราวร้องเรียนจากประชาชนในกรณีที่ถูกหลอกลวงให้ทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ โดยเมื่อมีประชาชนเข้ามาแจ้งความ หรือร้องทุกข์ก็ให้รับเรื่องแล้วส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ปัญหาต่อ

สำหรับข้อกฎหมายนั้น เบื้องต้นก็เห็นว่า อาจต้องมีการปรับปรุง โดยเฉพาะการเอาผิดกับผู้ที่ตั้งใจเข้ามาหลอกลวงตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งในวงการจะเรียกกันว่า บรรดาแม่ทีม ที่ตอนนี้พบว่า มีการเข้าไปชักชวนผู้ที่มีเงินทุนอยากทำธุรกิจ ได้จัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อขายสินค้า โดยแม่ทีมเหล่านี้มักจะทำแผนการตลาดให้น่าเชื่อถือ อวดอ้างแผนการทำงานว่าจะได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งต่อไปนี้อาจจำเป็นต้องพิจารณากฎหมายให้เอาผิดตัวการตั้งแต่ต้น โดยที่ผู้ที่ถูกหลอกลวงไม่ต้องได้รับความเดือดร้อนตามไปด้วย