posttoday

ตั้ง'ดีเอสไอศธ.'สกัดทุจริตพุ่ง 'หมอธี'รับสังคมกังขาหลายโครงการ

28 พฤศจิกายน 2561

รมว.ศึกษาฯ ผ่าตัดปัญหาทุจริตในกระทรวง ตั้งหน่วยงาน ดีเอสไอ ศธ. สางปัญหา

รมว.ศึกษาฯ ผ่าตัดปัญหาทุจริตในกระทรวง ตั้งหน่วยงาน ดีเอสไอ ศธ. สางปัญหา

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาทุจริตใน ศธ. ต้องให้สำนักนิติการของ ศธ.เป็นกำลังสำคัญในการกำกับดูแล โดยเร็วๆ นี้จะตั้งดีเอสไอประจำ ศธ.เป็นทีมกฎหมายกลุ่มพิเศษขึ้นมาอีก ขณะนี้ได้อัตรามาแล้ว 8 ตำแหน่ง จะวางเส้นทางความก้าวหน้าให้สูงถึงระดับ 10 และพยายามหาค่าตอบแทนที่สะท้อนการทำงานแท้จริง

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการอบรมและบรรยายพิเศษโครงการเสริมสร้างและพัฒนาวินัยและการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการปฏิบัติราชการ โดยมีศึกษาธิการจังหวัด รวมถึงนิติกร สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วม โดยระบุว่าการตรวจสอบทุจริตหลายเรื่องมีความคืบหน้า ทั้งการตรวจสอบกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต หรือโครงการระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา (MOENet) ที่ได้ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดที่กำลังสั่งการให้ตรวจสอบคือ กรณีโครงการเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา หรือ ยูนิเน็ต (UniNet) ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งมีบริษัทเอกชนร้องเรียนว่าการเขียนขอบเขตงานหรือทีโออาร์บางข้อเฉพาะเจาะจงเกินไป

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ดีเอสไอของ ศธ. จะเป็นฝ่ายกฎหมายพิเศษ เป็นหน่วยงานกลาง สังกัดสำนักนิติการของ สป.ศธ. จะขึ้นตรงกับ รมว.ศึกษาธิการ รับผิดชอบดูเรื่องร้องเรียนจากแท่งต่างๆ ภายในกระทรวง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หากมีเรื่องร้องเรียนมาอาจไม่เข้าใจ ดองเรื่อง หรือช่วยเหลือกันจนทำให้การตรวจสอบล่าช้า หรือเมื่อมีเรื่องร้องเรียนใหญ่ๆ เข้ามา เช่น การทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต หรือโครงการอาหารกลางวัน ถ้ารอให้ต้นสังกัดตรวจสอบ ต้องรอจนคดีล่าช้า จำต้องมีหน่วยงานกลางขึ้นมาเพื่อตรวจสอบโดยเฉพาะ

"ปัจจุบันสังคมเห็นว่า ศธ.มีปัญหามาก และตกเป็นจำเลยที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบหลายเรื่อง และวันหนึ่งเมื่อผมหมดหน้าที่ และประเทศมีการเลือกตั้ง อยากให้นิติกรเป็นที่พึ่งพิงและเป็นหลักให้ประเทศ ไม่ต้องกลัวนักการเมือง ทุกคนต้องตรงไปตรงมา อย่าเข้าใครออกใคร" นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ว่า หลังจากก่อนหน้านี้ ป.ป.ท.เขต 3 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงกรณีนักเรียนผีเกินเข้ามา ในบัญชีรายชื่อนักเรียนเพื่อตั้งเบิกงบประมาณอุดหนุนรายวัน ส่งผลให้ ป.ป.ท. ต้องสุ่มตรวจโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทั่วประเทศในสัปดาห์นี้เพื่ออุดช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากผลการสุ่มตรวจพบว่ามีความผิดปกติก็ต้องขยายผล เพื่อตรวจสอบต่อว่ามีการใช้จ่ายงบประมาณผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ หรือมีการหวังผลประโยชน์ในตำแหน่ง จากนั้นจึงจะแจ้งผลการตรวจสอบเบื้องต้นส่งสังกัดให้รับทราบช่องว่างที่ทำให้เกิดปัญหา