ตั้ง'ดีเอสไอศธ.'สกัดทุจริตพุ่ง 'หมอธี'รับสังคมกังขาหลายโครงการ
รมว.ศึกษาฯ ผ่าตัดปัญหาทุจริตในกระทรวง ตั้งหน่วยงาน ดีเอสไอ ศธ. สางปัญหา
รมว.ศึกษาฯ ผ่าตัดปัญหาทุจริตในกระทรวง ตั้งหน่วยงาน ดีเอสไอ ศธ. สางปัญหา
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาทุจริตใน ศธ. ต้องให้สำนักนิติการของ ศธ.เป็นกำลังสำคัญในการกำกับดูแล โดยเร็วๆ นี้จะตั้งดีเอสไอประจำ ศธ.เป็นทีมกฎหมายกลุ่มพิเศษขึ้นมาอีก ขณะนี้ได้อัตรามาแล้ว 8 ตำแหน่ง จะวางเส้นทางความก้าวหน้าให้สูงถึงระดับ 10 และพยายามหาค่าตอบแทนที่สะท้อนการทำงานแท้จริง
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการอบรมและบรรยายพิเศษโครงการเสริมสร้างและพัฒนาวินัยและการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการปฏิบัติราชการ โดยมีศึกษาธิการจังหวัด รวมถึงนิติกร สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วม โดยระบุว่าการตรวจสอบทุจริตหลายเรื่องมีความคืบหน้า ทั้งการตรวจสอบกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต หรือโครงการระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา (MOENet) ที่ได้ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดที่กำลังสั่งการให้ตรวจสอบคือ กรณีโครงการเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา หรือ ยูนิเน็ต (UniNet) ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งมีบริษัทเอกชนร้องเรียนว่าการเขียนขอบเขตงานหรือทีโออาร์บางข้อเฉพาะเจาะจงเกินไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ดีเอสไอของ ศธ. จะเป็นฝ่ายกฎหมายพิเศษ เป็นหน่วยงานกลาง สังกัดสำนักนิติการของ สป.ศธ. จะขึ้นตรงกับ รมว.ศึกษาธิการ รับผิดชอบดูเรื่องร้องเรียนจากแท่งต่างๆ ภายในกระทรวง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หากมีเรื่องร้องเรียนมาอาจไม่เข้าใจ ดองเรื่อง หรือช่วยเหลือกันจนทำให้การตรวจสอบล่าช้า หรือเมื่อมีเรื่องร้องเรียนใหญ่ๆ เข้ามา เช่น การทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต หรือโครงการอาหารกลางวัน ถ้ารอให้ต้นสังกัดตรวจสอบ ต้องรอจนคดีล่าช้า จำต้องมีหน่วยงานกลางขึ้นมาเพื่อตรวจสอบโดยเฉพาะ
"ปัจจุบันสังคมเห็นว่า ศธ.มีปัญหามาก และตกเป็นจำเลยที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบหลายเรื่อง และวันหนึ่งเมื่อผมหมดหน้าที่ และประเทศมีการเลือกตั้ง อยากให้นิติกรเป็นที่พึ่งพิงและเป็นหลักให้ประเทศ ไม่ต้องกลัวนักการเมือง ทุกคนต้องตรงไปตรงมา อย่าเข้าใครออกใคร" นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ว่า หลังจากก่อนหน้านี้ ป.ป.ท.เขต 3 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงกรณีนักเรียนผีเกินเข้ามา ในบัญชีรายชื่อนักเรียนเพื่อตั้งเบิกงบประมาณอุดหนุนรายวัน ส่งผลให้ ป.ป.ท. ต้องสุ่มตรวจโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทั่วประเทศในสัปดาห์นี้เพื่ออุดช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากผลการสุ่มตรวจพบว่ามีความผิดปกติก็ต้องขยายผล เพื่อตรวจสอบต่อว่ามีการใช้จ่ายงบประมาณผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ หรือมีการหวังผลประโยชน์ในตำแหน่ง จากนั้นจึงจะแจ้งผลการตรวจสอบเบื้องต้นส่งสังกัดให้รับทราบช่องว่างที่ทำให้เกิดปัญหา