posttoday

รวบสาวใหญ่นายหน้าแสบหลอกคนไปทำงานญี่ปุ่น

23 พฤศจิกายน 2561

บิ๊กโจ๊ก แถลงรวบ สาวใหญ่ 33 ปี นายหน้าแสบหลอกคนไปทำงานประเทศญี่ปุ่น สุดท้ายเชิดเงินหนีกว่า 2.4 ล้านบาท

บิ๊กโจ๊ก แถลงรวบ สาวใหญ่ 33 ปี นายหน้าแสบหลอกคนไปทำงานประเทศญี่ปุ่น สุดท้ายเชิดเงินหนีกว่า 2.4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นในธรรม ผบก.สส.สตม.  พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.คธา เกษรมาลา รอง ผบก.ปคม. ร่วมแถลงผลการจับกุม น.ส.ชลธิชา นิยมศรี อายุ 33 ปี ในความผิดฐาน "ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวงและฉ้อโกง" ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2592/2561 ลงวันที่ 22 พ.ย.61 โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 248 ซ.อ่อนนุช 54 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงอ่อนนุช เขตสวนหลง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.61

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดนครปฐมได้รับแจ้งจาก นายอนุสรณ์ อินทโสติ โทรศัพท์เข้ามาที่สายด่วน ต.ม. 1178 เพื่อขอรับความช่วยเหลือพี่ชาย ชื่อ นายโต้ง กลิ่นสังข์ อายุ 40 ปี พร้อมด้วย นางกมลพร เลาไชย อายุ 45 ปี นางไพฑูรย์ อิ่มภักดี อายุ 44 ปี และ นายสุรวิชย์ แน่นอุดร อายุ 43 ปี รวม 4 คน ถูกกักตัวไว้ในบ้านหลังหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่น โดย นายโต้ง บอกว่ากลัวจะได้รับอันตรายจากกลุ่มคนที่ควบคุมตัวไว้ ซึ่งมีลักษณะเป็นชาวเอเชียใต้คล้ายกับ ปากีสถาน บังกลาเทศ

"ทั้งนี้ ก่อนเดินทางนายโต้งได้รับการติดต่อจาก น.ส.ชลธิชา เป็นนายหน้าชักชวนไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเก็บค่าดำเนินการคนละ 80,000 บาท แต่เมื่อไปถึงกลับไม่สามารถหางานให้ทำได้จึงสูญเสียเงินกว่า 2.4 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากช่วยเหลือผู้เสียหายทั้งหมดกลับมาประเทศไทยแล้วก็เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคม. กระทั่งติดตามจับกุม น.ส.ชลธิชา มาดำเนินคดีตามกฎหมายในที่สุด"

ด้าน นายอนุสรณ์ อินทโสติ น้องชาย นายโต้ง กลิ่นสังข์ เปิดเผยว่า หลังจากพี่ชายเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นก็ถูกกักตัวไว้ในบ้านหลังหนึ่งร่วมกับผู้เสียหายคนอื่นแต่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจึงถ่ายคลิปวิดีโอส่งมาให้ตนเพื่อขอความช่วยเหลือ ตนจึงได้เข้าไปโพสต์ข้อความในเพจ “สุรเชษฐ์ หักพาล” และโทร.แจ้งสายด่วน ตม.1178 ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ในวันที่ 10 ต.ค. พร้อมประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานฑูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่ง เวลา 03.00 น. ของวันที่ 11 ต.ค. พี่ชายติดต่อมาหาตนว่าได้รับความปลอดภัยแล้ว ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยครบทั้ง 4 ราย เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา