posttoday

"หนุ่ม วงกะลา" พบตำรวจ ปัดถูกจับขณะกำลังร้อง

09 พฤศจิกายน 2561

หนุ่ม วงกะลา เข้าพบตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ แสดงความบริสุทธิ์ใจ คดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลงยาม ปัดถูกจับขณะกำลังร้อง ยันนักร้องแกรมมี่มีสิทธิ์ร้องเพลงนี้

หนุ่ม วงกะลา เข้าพบตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ แสดงความบริสุทธิ์ใจ คดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลงยาม  ปัดถูกจับขณะกำลังร้อง ยันนักร้องแกรมมี่มีสิทธิ์ร้องเพลงนี้

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ นายณพสิณ แสงสุวรรณ อายุ 37 ปี หรือ หนุ่ม วงกะลา นักร้องชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 530/332/ม.1 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่หลบหนี หลังถูก นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มิวสิคบั๊ก จำกัด เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ แจ้งจับ เนื่องจาก หนุ่ม วงกะลา  ได้นำผลงานเพลง ยาม  ไปร้องแสดงสดในสถาน บันเทิงตามจังหวัดต่างๆกว่า 44 แห่ง จนกระทั่งถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม เข้าจับกุม ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น โดยการเผยแพร่ต่อสาธารณะชน ซึ่งงานดนตรีกรรมและหรือบันทึกเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

หนุ่ม วงกะลา กล่าวว่า วันนี้ที่ตนเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เนื่องจาก ตนได้นำเพลง ยาม  ไปแสดงดนตรีสด ในผับ 4 x4 OFFROAD ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อช่วงตนเดือน มกราคม ที่ผ่านมา  สำหรับตนเองนั้น คงพูดอะไรได้ไม่มาก ตนคิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าเค้าอยากให้จบก็คงจบไปนานแล้ว เพราะมีการนัดมาพูดคุยกันแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากสิ่งที่เค้าเรียกร้องทั้งอาญาและแพ่งนั้นมากว่า 60 ล้าน ตนทำงานร้องเพลงไม่ได้ทำธุรกิจสร้างตึกถึงต้องมีเงินมากขนาดนั้น ซึ่งหากเราให้หัวใจกันเพื่อต้องการให้เรื่องจบและมีการเรียกร้องอย่างสมเหตุสมผล ตนเองก็พร้อมที่จะจ่าย ในส่วนที่ตนนำเพลง ยาม มาร้องตนขอชี้แจงว่า จริง ๆ แล้ว ตนและศิลปินคนอื่น ๆในแกรมมี่ นั้นมีสิทธิที่จะร้องเพลง ยาม  เนื่องจาก วงลาบานูนได้ย้ายมาอยู่ค่ายแกรมมี่แล้วซึ่งแกรมมี่ก็ได้มีการนำลิขสิทธิ์มา เพื่อจัดเก็บให้กับมิวสิคบั๊ก กระทั่งทั้งสองค่ายมีข้อพิพาทกัน และสัญญาจบลงเมื่อ 31ต.ค. 60 ก่อนที่ตนจะถูกไล่แจ้งความมาตั้งแต่นั้นมา ตนเองยอมรับว่าอาจเป็นความผิดพลาดของตนที่เดินสายเล่นคอนเสิร์ตตลอด จึงไม่ทราบว่าทางมิวสิคบั๊ก ได้ห้ามศิลปินในสังกัดแกรมมี่เล่นเพลง ยาม  ทั้งนี้ตนอยากชี้แจงว่า ตนเองนั้นไม่ได้โดนรวบระหว่างแสดงคอนเสิร์ตตามที่มีข่าวออกไปแต่อย่างใด  โดยข่าวที่ออกไปนั้นไม่เป็นความจริงเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงเข้ามาเชิญตนเองไปให้ปากคำที่โรงพักเท่านั้น และก็ไม่ได้มีผลกระทบกับงานแต่อย่างใด

"ผมต้องออกมาพูดเนื่องจากว่ามีบางกระแสออกมาว่าทำไมถึงปล่อยให้มีหมายจับออกมา ต้องขอชี้แจงว่าตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่ามีการแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่ามีการออกหมายเรียกผมให้เข้าไปพบช่วงปลายเดือน ม.ค. ผมก็ให้ผู้จัดการส่วนตัวเป็นคนไปพูดคุยและนัดอีกฝ่ายมาเจรจาตั้งแต่ต้น แต่พี่เขาก็ไม่มา โดยนัดหมายให้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ และพยายามที่จะพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์เพื่อหาข้อยุติเรื่องตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ซึ่งก็ได้เจรจาเกิดขึ้น แต่ยังหาตัวเลขตรงกลางไม่ได้ ตรงนี้ผมไม่ได้หนีไปไหนหากดูจากคิวงานของผมแล้ว จะหนีไปไหนได้" หนุ่ม วงกะลา กล่าว

อย่างไรก็ตามเหตุที่ ตนเดินทางมา ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ในวันนี้นั้นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และเป็นพื้นที่แรกที่ตนเข้ามารายงานตัว เพื่อต้องการให้พนักงานสอบสวนเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย ภายหลังจากทราบว่าตนเองถูกแจ้งดำเนินคดีลิขสิทธิ์เพลง ทั้งนี้เพื่อความสบายใจจึงได้เดินทางกลับมาที่นี่อีกอีกครั้ง ถึงแม้ทางพนักงานสอบสวนจะไม่ได้เรียกก็ตาม เพื่อให้ทางคู่กรณีทราบว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี