เล็งสกัด'น้ำมันกัญชา'

นพ.โสภณ เร่งสกัดน้ำมันกัญชาให้ได้ 4,000 ขวดในปีหน้ารักษาผู้ป่วย ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็นอีก 6 หมื่นขวดยังคุมเข้มไม่ให้ปลูกเสรี

นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และประธานคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เปิดเผยว่า การปลดล็อกกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ต้องค่อยๆ ทำทีละขั้นตอน ไม่ควรเปิดอิสระแต่แรกมิฉะนั้นอาจเกิดปัญหา หรือการยกระดับสารสกัดกัญชาจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เป็นประเภท 2 ทางแพทย์แผนไทยก็อาจต้องใจเย็นก่อน รอกฎหมายของทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่จะออกมาให้คลายอีกขั้น ทุกอย่างถึงจะเดินหน้าไป

นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ อภ.สามารถสกัดน้ำมันกัญชาได้แล้วด้วยหลายๆ วิธี เพื่อดูว่าวิธีไหนดีและรวดเร็วที่สุด เบื้องต้น พบว่าได้สัดส่วนของสารทีเอชซีสูง แต่สารซีบีดียังได้น้อย ตรงนี้อาจขออนุญาตองค์การอาหารและยา (อย.) นำเข้า หรือให้ อย.สั่งนำเข้ามาเพื่อผสมตามสัดส่วนที่จะใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ส่วนการปนเปื้อนนั้นได้ส่งวัตถุดิบล็อตเดียวกับที่สกัดน้ำมันกัญชาไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ ซึ่งจะทราบผลในอีก 1 เดือน

ทั้งนี้ หากของกลางมีมาตรฐาน ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย ก็จะผลิตเพื่อใช้การศึกษาวิจัยและรักษาผู้ป่วย โดยมีแผนจะผลิตจำนวน 4,000 ขวด ในเดือน ม.ค. 2562 และขอของกลางมาผลิตเพิ่มให้ได้เดือนละ 6,000 ขวด ตั้งแต่เดือน ก.พ.-เม.ย. 2562 เป็นการสกัดในห้องปฏิบัติการที่โรงงานพระราม 6

นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนปรับสถานที่ และนำเข้าเครื่องสกัดเพื่อสกัดน้ำมันกัญชาในระดับกึ่งอุตสาหกรรมจากของกลางที่โรงงานรังสิต ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2562 เป็นต้นไปให้ได้เดือนละ 6 หมื่นขวด รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่ปลูกกัญชาและพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ดี โดยจะพัฒนาให้สารซีบีดีสูงๆ ซึ่ง นายวิเชียร กีรตินิจกาล อาจารย์คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญมั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาขึ้นได้ โดยคาดว่าจะเริ่มปลูกได้ก่อนสิ้นปี 2562

นพ.โสภณ กล่าวว่า ยังวางแผนผลิตในระดับอุตสาหกรรม ที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ที่ อภ.มีที่ดินจำนวน 1,500 ไร่ ส่วนในระดับชาวบ้านนั้นมองว่าระยะแรกยังไม่ควรให้ชาวบ้านทั่วไปปลูกกัญชา แต่อาจสนับสนุนให้ปลูกกัญชงแทน เพราะจะได้ทั้งสาร ซีบีดีและเส้นใยที่นำมาใช้ประโยชน์ ขณะนี้ อย.ก็กำลังศึกษาอยู่

ภก.ธนภัทร ทรงศักดิ์ คณบดีวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยรังสิตได้ขออนุญาตนำกัญชามาใช้ศึกษาวิจัยทางการแพทย์และก็มีการวิจัย จนสามารถพัฒนาสเปรย์ฉีดพ่นในช่องปากจากสารสกัดกัญชาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยแล้ว