posttoday

ยธ.เผยไทยยังไม่มีจังหวัดปลอดยาเสพติด ชี้ทะลักเข้าประเทศทุกช่องทาง

31 ตุลาคม 2561

ยธ.ชี้ยาเสพติดยังถูกลักลอบขนเข้าไทยต่อเนื่องในทุกช่องทาง ยังไม่มีจังหวัดใดปลอดยาเสพติดได้อย่างแท้จริง

ยธ.ชี้ยาเสพติดยังถูกลักลอบขนเข้าไทยต่อเนื่องในทุกช่องทาง ยังไม่มีจังหวัดใดปลอดยาเสพติดได้อย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฎิบัติการชี้แจงแผนป้องกันปราบปรามและบำบัดรักษายาเสพติดปี 2562 โดยระบุว่าสถานการณ์ยาเสพติดในขณะนี้มีแนวโน้มสูงขั้นเรื่อยๆและไทยยังเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องในการผลิตและลำเลียงยาเสพติดไปยังภูมิภาคอื่นๆทั่วโลกสามเหลี่ยมทองคำเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดอันดับ 2 ของโลก

ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหากำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติและวาระแร่งด่วนแต่ยังไม่พบว่ามีจังหวัดใดในประเทศสามารถประกาศตัวได้ว่าเป็นพื้นที่ปลอดจากยาเสพติดอย่างแท้จริงจะมีเพียงหมู่บ้านหรือชุมชนสีขาวบางแห่งเท่านั้น

ปัจจุบันพื้นที่ภาคเหนือยังต้องเผชิญหน้ากับยาเสพติดข้ามแดนรวมถึงภาคอีสานตั้งแต่ จ.นครพนมจนถึงอุบลราชธานี จังหวัดชายทะเลจนถึงอ่าวไทยและอันดามันจรดถึงประเทศมาเลเซียที่ผ่านมาแม้จะมีการตรึงพื้นชายแดนเข้มงวดเพิ่มประสิทธิภาพงานการข่าวแต่ยาเสพติดยังทะลักเข้ามาทุกเส้นทางทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ และยังมีการลักลอบนำสารตั้งต้นเข้ามาผลิตยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลจึงขอให้แต่ละจังหวัดทำแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดเพื่อเชื่อมต่อกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อลดความต้องการและปริมาณในการเสพ ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณเครื่องมือและกำลังพลในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเรียกร้องให้นำพืชเสพติดมาใช้ประโยชน์เพื่อการวิจัยทางการแพทย์นั้น แม้ในบางประเทศจะอนุญาตให้ใช้เพื่อความบันเทิงภายใต้การกับดูแลขอชี้แจงว่าในกลุ่มอาเซียนยังไม่มีประเทศใดที่ยาเสพติดถูกกฎหมายในส่วนของประเทศไทยได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขและองค์การอาหารและยา(อย.)ร่วมกันรับผิดชอบกฎหมายเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากพืชเสพติดซึ่งขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวถูกจับตาจากสังคมและต้องยอมรับว่ายังมีความหวาดกลัวถึงผลกระทบดังนั้นก่อนตัดสินใจจึงต้องทำให้ทุกกลุ่มในสังคมเข้าใจถึงเป้าหมายว่าพืชเสพติดจะใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้นโดยไม่ปล่อยให้ยาเสพติดถูกกฎหมายแน่นอน

ด้าน นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) กล่าวถึงแผนบริหารจัดการยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือว่า ขณะนี้ปปส.ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1-4 และประเทศเพื่อนบ้านเปิดแผนปฏิบัติการตั้งด่านสกัดยาเสพติดในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบนำเข้า ซึ่งแผนดังกล่าวเริ่มต้นดำเนินการตั้งแต่ 1 ต.ค.61 – 30 ก.ย.62 ในพื้นที่ 4 จังหวัด 19 อำเภอ 33 ตำบล และหมู่บ้านที่เป็นจุดล่อแหลมอีก 47 หมู่บ้านรวมทั้งการวิเคราะห์ปัญหาในหมู่บ้านล่อแหลมว่าเกิดจากความด้อยโอกาสของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะต้องพัฒนาและแก้ไขเพื่อลดความเสี่ยงในหมู่บ้านที่เป็นทั้งแหล่งนำเข้า ส่งออกและกระจายยาเสพติดในเขตพื้นที่แนวชายแดน

สำหรับสถานการณ์ยาเสพติดในปี 62 ยังเน้นมาตรการสกัดกั้นตามแนวชายแดน การจับกุมยาเสพติดได้มากขึ้นในจังหวัดชายแดนถือเป็นผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สามารถสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ทะลักเข้ามาในพื้นที่ส่วนใน และยังเน้นการบำบัดรักษาซึ่งพบว่ามีผู้เสพเพิ่มขึ้นจึงเน้นการนำตัวไปบำบัดรักษาโดยมีผู้ติดยาซึ่งถือเป็นผู้ป่วยประมาณ 200,000 คนและมีผู้เสพและผู้ติดเข้าสู่ระบบบำบัดรักษา 3.4 แสนคน

ส่วนปัญหายาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปปส.ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4เข้าไปเดินค้นหาสำรวจผู้เสพทุกหมู่บ้านโดยเฉพาะหมู่บ้านต้องสงสัยที่พบพฤติการณ์เสี่ยงต่อการเสพยาเพื่อเปิดแนวรุกและหากพบว่ามีเยาวชนเสพยาจะนำตัวเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 2 พ.ย.นี้