posttoday

ผู้พิพากษาลงมติถอดถอน"ชำนาญ"

27 ตุลาคม 2561

ผู้พิพากษาลงมติ ถอดถอน "ชำนาญ" พ้น ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิชั้นฎีกา

ผู้พิพากษาลงมติ ถอดถอน "ชำนาญ"  พ้น ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิชั้นฎีกา

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม แถลงว่าผู้พิพากษาใช้สิทธิลงคะแนนเห็นชอบให้ถอดถอน นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกาให้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่กรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ผู้ทรงคุณวุฒิชั้นฎีกา

สำนักงานศาลยุติธรรมได้ดำเนินการตรวจนับคะแนนลงมติตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 จากผู้พิพากษาทั่วไป ที่ได้รับบัตรไปลงคะแนนจำนวน 3,548 ใบ จากบัตรลงคะแนนที่ส่งไปทั้งหมด 4,635 ใบ

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าผู้พิพากษาใช้สิทธิลงคะแนนเห็นชอบให้ถอดถอนนายชำนาญรวมทั้งสิ้น 3,165 คะแนน ซึ่งจำนวนคะแนนเสียงเห็นชอบให้ถอดถอนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของข้าราชการตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

ทั้งนี้ โดยกึ่งหนึ่งเท่ากับ 2,318 คะแนน และส่วนที่ไม่เห็นชอบการถอดถอนมีจำนวน 193 คะแนน ขณะที่การลงคะแนนนั้นมีจำนวนบัตรเสียทั้งสิ้น 190 ใบ จากผลการลงคะแนนดังกล่าวทำให้นายชำนาญต้องพ้นจากตำแหน่ง ก.ต.ชั้นฎีกานับตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันที่นับคะแนนเสร็จสิ้นตามระเบียบ ก.ต.ว่าด้วยการ เข้าชื่อและการลงมติ

ด้านโฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า การถูกยื่นถอดถอนให้พ้นจากการได้รับเลือกเป็น ก.ต.ชั้นฎีกาเท่านั้น กรณีนี้จึงเป็นคนละส่วนกันกับการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี ดังนั้นนายชำนาญยังคงปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกาต่อไป

อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 และผู้แทน ผู้เข้าชื่ออีก 2 คน นำรายชื่อผู้พิพากษากว่า 1,700 คน ที่ร่วมเข้าชื่อยื่นถอดถอนนายชำนาญออกจากตำแหน่ง ก.ต.ในประเด็นข้อกล่าวหาว่านายชำนาญมีพฤติการณ์ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ และข่มขู่ผู้พิพากษาในคดีมรดกที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อนายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม

ต่อมาสำนักงานศาลยุติธรรมได้ปฏิบัติตามขั้นตอน ติดคำร้องถอดถอนพร้อมรายชื่อผู้เข้าร่วมคำร้องขอให้ถอดถอนและคำชี้แจงปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายชำนาญที่ศาลทั่วประเทศ พร้อมจัดส่งบัตรลงคะแนนให้กับผู้พิพากษาทั่วประเทศทางไปรษณีย์เพื่อลงมติว่าจะถอดถอน หรือไม่ถอดถอนก่อนส่งกลับมาภายในวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา และมีการนับคะแนนลงมติเมื่อวันที่ 26  ต.ค.