posttoday

"อดีตผอ.สำนักอุทยาน"ร้องดีเอสไอสอบฮั้วประมูลปลูกป่าแก่งกระจาน

24 ตุลาคม 2561

"อดีตผอ.สำนักอุทยานฯ" ร้องดีเอสไอสอบผู้มีอิทธิพล-ฮั้วประมูลโครงการปลูกป่าฯแก่งกระจานงบกว่า15ล้านบาทส่อไม่โปร่งใส พบพิรุธหลายจุด

"อดีตผอ.สำนักอุทยานฯ" ร้องดีเอสไอสอบผู้มีอิทธิพล-ฮั้วประมูลโครงการปลูกป่าฯแก่งกระจานงบกว่า15ล้านบาทส่อไม่โปร่งใส พบพิรุธหลายจุด

นายสมัคร ดอนนาปี อดีตผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้รับสอบสวนกรณีมีกลุ่มบุคคลที่น่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์ส่อไปในทางฮั้วประมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในระหว่างปี พ.ศ.2555 - 2558 โดยใช้วิธีพิเศษในหลายโครงการและมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ โดยมีร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษรับหนังสือ

นายสมัคร กล่าวว่า ตนมายื่นหนังสือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษใน 2 ประเด็น คือขอให้สอบผู้มีอิทธิพลและการฮั้วประมูลใน โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ปี 2554 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งกระจานตั้งเรื่องของบประมาณจากเงินรายได้ของกรมอุทยาน วงเงิน 15.9 ล้านบาท เพื่อปลูกป่าในพื้นที่ 4,200 ไร่โดยโครงการระบุว่าเป็นการปลูกป่าแบบเต็มแปลง ซึ่งต้องใช้กล้าไม้ 200 ต้นต่อไร่ หรือประมาณ 840,000 – 1,000,000 ต้นทั่วพื้นที่

แต่เมื่อตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกตามพิกัดจากภาพถ่ายทางอากาศในแอพพริเคชั่นกูเกิลพบว่าอุทยานแห่ชาติ แก่งกระจานยังมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ โอบล้อมด้วยภูเขาสูงไม่มีเส้นทางคมนาคม หากเป็นคนทั่วไปเดินตัวเปล่าเข้าป่าต้องใช้เวลาถึง 3 วัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีการจ้างงานเพื่อเดินเท้าและขนกล้าไม้เข้าไปปลูกป่า

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามชาวกะเหรี่ยงและชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่พบว่ามีผู้ใดรับงานรับจ้างขนกล้าไม้เข้าไปในป่า

"ที่ผ่านมาผมได้เข้าร้องเรียนกับกรมอุทยานฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.61ตามระเบียบจะต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่ขณะนี้ผ่านมานานถึง7 เดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้าหรือความชัดเจนจึงต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอรับสอบสวนเป็นคดีพิเศษเพราะนอกจากโครงการปลูกป่าแล้วยังมีโครงการดูแลรักษาสวนเดิมระหว่างปี57-61 ที่มีค่าใช้จ่ายปีละ 4.2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 21ล้านบาทอีกด้วย"นายสมัครกล่าว

นายสมัคร กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้วตนยังขอให้ดีเอสไอตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานวงเงิน 3.5 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลระบุว่าถูกขอยืมชื่อไปใช้ร่วมประมูลและมีการมอบอำนาจให้กับพนักงานราชการของอุทยานฯเป็นผู้เข้าทำสัญญากับอุทยานฯพฤติการณ์ดังกล่าวจึงเป็นการเข้าข่ายสมยอมราคาหรือฮั้วประมูลรวมถึงโครงการจัดทำฝายต้นน้ำแบบผสมผสานในพื้นที่ป่าแก่งกระจานหรือฝายแม้ววงเงิน2.5 ล้านบาท ซึ่งน่าเชื่อว่ามีการจัดสร้างจริงเช่นเดียวกับโครงการปลูกป่า

"ผมเป็นข้าราชการบำนาญกรมอุทยาน ไม่มีเรื่องบาดหมางเป็นการส่วนตัวกับใครสาเหตุที่ต้องเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะเห็นว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นมีการนำเงินรายได้ของกรมอุทยานไปใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ แต่ที่ผ่านมาประเด็นร้องเรียนของผมถูกเบี่ยงเบนว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัว"อดีตผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ภายหลังรับหนังสือการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วจะประมวลเรื่องเพื่อเสนอให้พ.ต.อ.ไพสิฐส่งเรื่องไปให้สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 7 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่แก่งกระจานให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเร็ว