รวบแท็กซี่ชิงทองผู้โดยสารเมา ก่อนทิ้งข้างทางจนถูกทำร้าย-ปล้นซ้ำ

ตำรวจจับกุมคนขับแท็กซี่ชิงทองวิศวกรหนุ่มเมาย่านศรีนครินทร์-ก่อนถูกทำร้ายและปล้น

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.  จากกรณี นายนรพร พรหมบุตร อายุ 39 ปี วิศวกรยานยนต์ บริษัทฯรถยนต์ชื่อดัง เข้าแจ้งความว่า ช่วงเวลา 02.00 น. ของคืนวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เรียกรถแท็กซี่ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน จากบริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเอกมัย โดยตอนนั้นมีอาการเมาสุรา จนต่อมาถูกทิ้งไว้ข้างถนนศรีนครินทร์ ในสภาพเลือดโชกเต็มตัว และทรัพย์สินหายได้สูญหายไปทั้งหมด ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท , นาฬิกาข้อมือ , โทรศัพท์มือถือ , แว่นสายตา และเงินสดอีก 3,500 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่สูญหายประมาณ 1 แสนบาท

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า หลังติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ ซึ่งภายหลังการสอบปากคำได้ให้การตรงกันว่า ทรัพย์สินที่ได้ไปมีเพียงแค่พวงกุญแจกับนาฬิกาเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นไม่ได้หยิบไป พนักงานสอบสวนจึงสืบสวนต่อจนทราบว่า รถแท็กซี่คันที่ผู้เสียหายนั่งมาในวันเกิดเหตุมี นายพิชัย ชูชน เป็นผู้ขับขี่จึงติดตามตัวมาสอบสวน

พ.ต.อ.อลงกรณ์ เปิดเผยว่า นายพิชัย รับสารภาพว่า เป็นคนขโมยทรัพย์ผู้เสียหายไปจริง โดยวันเกิดเหตุรับตัวผู้เสียหายมาจากซอยเอกมัย 10 เพื่อจะไปส่งบริเวณถนศรีนครินทร์ แต่ระหว่างทางผู้เสียหายหลับและตอนนั้นเห็นสร้อยคอทองคำที่ผู้เสียหายใส่ไว้ที่คอหลุดตกลงไปข้างเบาะนั่งจึงอยากได้ จากนั้นหยุดรถบริเวณข้างทางแล้วหยิบเอาสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายมาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ และเมื่อขับรถมาถึงบริเวณห้างย่านถ.ศรีนครินทร์ จึงปลุกผู้โดยสารแล้วให้ลงจากรถไป จากนั้นได้นำสร้อยคอไปจำนำโดยได้เงินมา 16,500 บาท และนำเงินไปเล่นการพนันจนหมด แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายวิศวกร

จากการตรวจสอบพฤติกรรมพบว่า นายพิชัยมีการกระทำความผิดในลักษณะนี้หลายครั้ง แต่ยังไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อน โดยมักจะเลือกไปรอรับผู้โดนสารที่มีอาการมึนเมาตามสถานบันเทิงต่างๆ ก่อนจะปลดเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป ทำให้ผู้เสียหายจดจำไม่ได้ โดยช่วงบ่ายของวันนี้ตำรวจจะนำตัว นายพิชัย ไปส่งศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อฝากขัง ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เตรียมประสานอายัดตัวต่อไป

ภาพ : Policenews