posttoday

ศาลไม่ให้ประกัน5ผู้ต้องหาสาดกระสุนกลางกรุง ชี้พฤติการณ์ร้ายแรง

10 ตุลาคม 2561

ศาลไม่ให้ประกันตัว 5ผู้ต้องหายิงถล่มอริกระสุนถูกนักท่องเที่ยวดับ ชี้พฤติการณ์ร้ายแรง หวั่นหลบหนี เจ้าหน้าที่เอาผิด 5 ข้อหาหนัก

ศาลไม่ให้ประกันตัว 5ผู้ต้องหายิงถล่มอริกระสุนถูกนักท่องเที่ยวดับ ชี้พฤติการณ์ร้ายแรง หวั่นหลบหนี เจ้าหน้าที่เอาผิด 5 ข้อหาหนัก

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ร.ต.อ.ศิริพงษ์ เพ็งมณี พนักงานสอบสวนสน.พญาไท ได้ควบคุมตัว นายปรีชา ศักดิ์อุดมไพศาล อายุ 28 ปี หรือฉายา ตั้ม ตึกแดง , นายประมุข จันท์เสนานนท์ หรือเบิร์ด อายุ 34 ปี , นายสมชาย แซ่ปัง หรือปัง อายุ 35 ปี , นายธัชกร พรภักดี หรือบลู อายุ 48 ปี และ นายภิรมเวศน์ อภินรชาติ หรือหนึ่ง อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 9 ต.ค.61 คดีร่วมกันนำอาวุธปืนกระสุน กราดยิงคู่อริกลุ่มโต๊ะสนุกเกอร์ย่านประตูน้ำ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 -21 ต.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

เจ้าหน้าที่ได้แยกสำนวนฝากขังผู้ต้องหาทั้งห้า เป็น 5 สำนวน พร้อมคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง รวมทั้งขณะนี้ก็กำลังติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอื่นที่ศาลอาญาได้ออกหมายจับไว้แล้วมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปด้วย

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 18.20 น.กลุ่มของผู้ต้องหา กับกลุ่มของนายพรเทพ พุ่มพวง หรือเพชร ,นายหนุ่ม กระต่ายทอง หรือหนุ่ม,นายศรราม ภูผลผัน หรือโจ และนายยา ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง กับพวกที่พักอาศัยอยู่ย่านประตูน้ำบริเวณที่เกิดเหตุ ได้พูดคุยกรณีที่มีปัญหากัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันไป

จนกระทั่งกลุ่มของผู้ต้องหาได้โทรศัพท์เรียกพรรคพวกให้มาสมทบอีกประมาณ 19 คน ซึ่งพากันเดินไปยังบ้านพักของนายพรเทพ ที่อยู่ห่างจากโต๊ะสนุกเกอร์ประมาณ 400 เมตร เพื่อพูดคุยแต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ ซึ่งระหว่างนั้นก็ท้าทายให้ไปพบกัน กลุ่มของนายพรเทพจึงเดินตามออกไป จากนั้นวันที่ 7 ต.ค.เวลา 21.30 น.กลุ่มผู้ต้องหาและกลุ่มของนายพรเทพก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กัน จนเป็นเหตุให้นายพรเทพได้รับบาดเจ็บ , ถูกยิงที่ฝ่ามือซ้ายจนกระดูกแตก และนายทักษิณ สุขเอียด ถูกยิงที่บริเวณลูกอัณฑะทะลุก้น

ขณะที่เชื่อว่าลูกกระสุนที่มาจากฝ่ายของนายพรเทพ ได้พลาดไปถูกนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย กระสุนเข้าที่หน้าท้องเสียชีวิต และยังมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียกับชาวลาวอีก 1 คน ซึ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา นายปรีชา ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สน.พญาไท และได้รับมอบตัว นายประมุข , นายสมชาย , นายธัชกร ผู้ต้องหาตามหมายจับและจับกุมนายภิรมเวศน์ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท แล้วแจ้งกล่าวหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 , ร่วมกันชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปและบุคคลหนึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการกระทำนั้นหรือไม่ ได้ถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส ตามมาตรา 294,299 และร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร มาตรา 371 และมีอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในที่ชุมชนและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7 , 8 ทวิ , 72 วรรคหนึ่ง , 72 ทวิ วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 80

โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งห้าให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เหตุเกิดที่ลานจอดรถห้างวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมา ญาติผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดรายละ 60,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ทั้ง 5 ราย ระหว่างฝากขัง ซึ่งเป็นการยื่นหลักทรัพย์ตามเกณฑ์ร้อยละ 20 จากวงเงินเต็มที่ศาลกำหนดหลักทรัพย์การยื่นประกันตัวข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นฯ อยู่ที่จำนวน 300,000 บาท พร้อมกับความสมัครใจของผู้ต้องหาเองที่ยินยอมจะติดอุปกรณ์ EM หรือ กำไลข้อเท้าระหว่างประกันตัว

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 16.00 น. ศาลได้พิเคราะห์คำร้องและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนยังสอบพยานบุคคลไม่แล้วเสร็จและคัดค้านการประกัน ในชั้นนี้หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงได้ยกคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งห้า

ภายหลังศาลยกคำร้องขอประกันตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ก็ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ไปคุมขังระหว่างการฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป