จับกลุ่ม"แฝดหัวไทร"แก๊งค้ายาภาคใต้ ยึดยาบ้าแสนเม็ด พบอายุแค่19

ตำรวจสภ.บางเสาธง รวบเครือข่ายยาบ้า"แฝดหัวไทย" ขณะเตรียมขนจากกทม.ไปส่งนครศรีธรรมราช ยึดของกลาง 1 แสนเม็ด

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง พ.ต.ท.พงษ์ธรรศ เจริญปริชญาพงษ์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.ภาสกร มังกรแก้ว รองผกก.ป.พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.บางเสาธง ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุม 1. นายภาคินัย นุ่นรอด อายุ 19 ปี 2. น.ส.นฤมนต์ อายุ 19 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 100,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กระเป๋าผ้า 2 ใบ บัตรเอทีเอ็มธนาคาร2 ใบ

พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก ตำรวจชุดงานป้องกันและปราบปราม สภ.บางเสาธงได้ตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมตามปกติ บริเวณ ถนนซอยซี 6 แยกจุฬารัตน์ 5 หมู่บ้านการเคหะฯ หมู่ 16 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้มีรถแท็กซี่ ขับเข้ามาในด่านตรวจ จึงเรียกตรวจปกติแต่พบว่าผู้โดยสารชาย,หญิงที่นั่งอยู่เบาะโดยสารด้านหลังมีท่าทีพิรุธ จึงขอตรวจค้นอย่างละเอียดก็พบกระเป๋าผ้าสีดำคาดแดงวางอยู่เมื่อเปิดกระเป๋าก็พบยาบ้าจำนวน 9 ห่อใหญ่รวม 90,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่และพบยาบ้าอีก 1 ห่อใหญ่ จำนวน 10,000 เม็ดอยู่ในถุงพลาสติกแบบหูหิ้ว รวมทั้งหมด 100,000 เม็ด

จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายธนวัฒน์ ซึ่งเป็นเพื่อนเรียนสมัยมัธยมที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ให้นำยาบ้าไปส่งที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีแฟนสาวของนายธนวัฒน์เป็นผู้โอนเงินให้ จากนั้นได้ว่าจ้างรถแท็กซี่เพื่อไปรับของที่ซอยมิตรไมตรี28 เขตหนองจอกก่อนโทรศัพท์ติดต่อกับเบอร์ที่ได้มา และต่อมามีชายไม่ทราบชื่อ ได้ขับรถเก๋งลักษณะมารับแล้วส่งมอบยาบ้าให้กับทั้งสอง จากนั้นให้ลงจากรถแล้วว่าจ้างรถแท็กซี่กลับบ้านพักที่เคหะบางพลี แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นและจับกุมตัวเสียก่อน

ทั้งนี้ตำรวจสืบสวน สภ.บางเสาธง ได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ กับนายธนวัฒน์ และแฟนสาวผู้ว่าจ้างในข้อหา "ร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกฎหมาย"

ส่วนนายภาคินัย และน.ส.นฤมนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นเครือข่ายยาเสพติดในภาคใต้ที่ใช้ชื่อว่า "แฝดหัวไทร"