posttoday

"ประจิน"ห่วงปลดล็อคกัญชาเร็วเกินไปอาจเอื้อต่างชาติ

07 ตุลาคม 2561

รมว.ยุติธรรมห่วงปลดล็อคกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์การแพทย์เร็วเกิน โดยที่ยังไม่พร้อมอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ต่างชาติ

รมว.ยุติธรรมห่วงปลดล็อคกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์การแพทย์เร็วเกิน โดยที่ยังไม่พร้อมอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ต่างชาติ

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการคลายล็อคใช้พืชกัญชาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ซึ่งขณะนี้หลายฝ่ายกังวลว่าสนช.ใช้เวลาในการพิจารณากฎหมายล่าช้า จนอาจต้องประกาศใช้มาตรา 44.ว่า ยังไม่ควรด่วนสรุปเนื่องจากยังมีหลายช่องทาง แต่ต้องพิจารณาก่อนว่าใช้ช่องทางกฎหมายเดิมได้หรือไม่

ส่วนปัญหาที่ สนช.พิจารณาที่ล่าช้าก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มความถี่ในการประชุมกรรมาธิการ หรืออาจจะพิจารณาออกประกาศพระราชกำหนด, พระราชกฤษฎีกา แต่หากพิจารณาไม่ทันจริงๆ จึงจะเสนอให้นายกฯประกาศใช้มาตรา 44

อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้เสนอรายงานสรุปผลการใช้พืชกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยใน 4 ประเทศที่ใช้พืชกัญชาผลิตยารักษาโรคมาให้พิจารณาแล้ว

"รายงานดังกล่าวเป็นการอธิบายในลักษณะกว้างๆ ผม จึงขอให้ป.ป.ส.เพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับสายพันธุ์กัญชาที่นำมาผลิตยา เนื่องจากแต่ละสายพันธุ์มีคุณสมบัติสกัดตัวยารักษาโรคแตกต่างกัน รวมถึงขั้นตอนการผลิตตัวยาที่มีสูตรแตกต่างกันต้องมีห้องทดลอง มีผู้เชี่ยวชาญดูแลรักษาอย่างไร ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาต้องสมัครใจรักษา ขณะที่พื้นที่ใช้ปลูกจะต้องมีระบบควบคุมอย่างไร ขั้นตอนการอนุญาตต้องทำอย่างไร ป.ป.ส.ต้องเขียนแนวทางตั้งแต่ต้นทาง ใช้ปลูกจะต้องมีระบบควบคุมอย่างไร ขั้นตอนการอนุญาตต้องทำอย่างไรป.ป.ส.ต้องเขียนแนวทางตั้งแต่ต้นทาง กลางทางและปลายทางให้ชัดเจนเป็นที่ประจักษ์" พล.อ.ประจิน กล่าว

รมว.ยุติธรรมกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในต่างประเทศมีงานวิจัยการใช้พืชกัญชาเพื่อรักษาโรคออกมาแล้วหลายสูตร แต่ก็ไม่สามารถนำมาผลิตได้ เพราะมีลิขสิทธิ์ ไทยจึงจำเป็นต้องวิจัยและผลิตเอง จึงให้ป.ป.ส.จัดทำข้อเสนอแนะที่สามารถทำได้จริงในประเทศไทย ผลิตได้ เพราะมีลิขสิทธิ์ ไทยจึงจำเป็นต้องวิจัยและผลิตเอง จึงให้ป.ป.ส.จัดทำข้อเสนอแนะที่สามารถทำได้จริงในประเทศไทย และเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการไทยเพราะตัวยาที่สกัดอาจจะมีหลายสูตร ดังนั้น จะให้ผู้ประกอบการร่วมผลิตด้วยหลังจากคลายล็อคและควบคุมได้แล้ว โดยจะมีองค์การอาหารและยาเป็นผู้ตรวจสอบว่ายาที่ผลิตได้ผ่านเกณฑ์หรือไม่

"หากมีการคลายล็อคเร็วเกินไปโดยที่ยังไม่มีความพร้อม และยังศึกษาไม่ดี จะเป็นการเอื้อให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในบ้านเรา"รมว.ยุติธรรมกล่าว

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำหนดกรอบเวลาให้ป.ป.ส.จัดทำสรุปรายงานการวิจัยเพิ่มเติมและส่งให้ตนภายในวันที่ 12 ต.ค.นี้ หลังจากนั้นตนจะเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป