posttoday

เล็งเจรจาเกาหลีใต้เพิ่มโอกาสแรงงานไทยไปทำงานอย่างถูกต้อง

03 ตุลาคม 2561

กระทรวงแรงงานเตรียมรองรับ "ผีน้อย" กลับไทย เตรียมพัฒนาศักยภาพและภาษาเพื่อกลับไปทำงานอย่างถูกต้อง ขณะที่ทางการเกาหลีดีเดย์เริ่มจับกุม 1 พ.ย.นี้

กระทรวงแรงงานเตรียมรองรับ "ผีน้อย" กลับไทย เตรียมพัฒนาศักยภาพและภาษาเพื่อกลับไปทำงานอย่างถูกต้อง ขณะที่ทางการเกาหลีดีเดย์เริ่มจับกุม 1 พ.ย.นี้

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน กล่าวว่า การไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ภายใต้โครงการ EPS Employment Permit System (EPS) ประเทศไทยได้รับโควต้าให้จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่เกาหลีใต้ได้ปีละ 5,000 คน แต่ปัญหาการลักลอบเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้ที่มีจำนวนมาก ด้วยเหตุจูงใจที่อัตราค่าจ้างสูง4-5 หมื่นบาทต่อเดือน อีกทั้งนายจ้างเกาหลีมีความต้องการจ้างแรงงานจำนวนมาก ซึ่งโควตาที่ได้รับยังไม่สอดคล้องกับจำนวนความต้องการของนายจ้างในเกาหลีใต้ จึงเกิดการลักลอบทำงานที่คาดว่ามี 1.2 แสนคนดังนั้นจึงจะขอเสนอให้ทางการเกาหลีใต้พิจารณาผ่อนผันให้มีการขึ้นทะเบียนได้รับอนุญาตให้ทำงาน โดยไม่ต้องเดินทางกลับ

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว สาเหตุที่แรงงานไทยจำนวนมากลักลอบทำงานในเกาหลีเนื่องจากส่วนใหญ่สอบภาษาเกาหลีไม่ผ่าน และการที่เกาหลีกำหนดการจ้างแรงงานข้ามชาติต้องมีอายุไม่เกิน 39 ปีนั้น คนที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 39 ปีแต่ต้องการหารายได้เลี้ยงครอบครัว และระยะหลังมีคนงานหญิงลักลอบเข้าไปทำงานมากขึ้น เนื่องจากนายจ้างนิยมจ้างแรงงานชายมากกว่าแรงงานหญิง แม้แรงงานหญิงจะสอบผ่านภาษาเกาหลีมากกว่าผู้หญิง แต่ไม่ถูกเรียกตัวให้ทำงาน ซึ่งส่งผลให้การจัดส่งคนงานในระบบ EPS ในแต่ละปีจัดส่งได้ไม่เต็มจำนวนที่ได้รับ 5,000 คนต่อปี

นอกจากนี้แม้จะสอบผ่านภาษาเกาหลี แต่ก่อนเดินทางใช้ระยะเวลานานเฉลี่ย 86 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลารอนาน เนื่องจากมีขั้นตอนในเรื่องการดำเนินการด้านเอกสารและการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม

รมว.แรงงาน กล่าวว่าขณะนี้ทางการเกาหลีปลดล็อคแบล็คลิสต์ที่ลักลอบทำงาน 1.2 แสนคน หากเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2561 – 31 มี.ค.2562 เพื่อเปิดโอกาสให้เดินทางกลับเข้ามาอย่างถูกกฏหมายได้อีก

ทั้งนี้เกาหลีใต้จะเริ่มตรวจจับกุมในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งหากถูกจับกุมจะถูกแบล็คลิสต์ห้ามเข้าเกาหลีใต้ 10 ปี ซึ่งในเรื่องนี้ตนวางยุทธศาสตร์เพื่อให้แรงงานไทยได้กลับเข้าไปทำงานในเกาหลีอย่างถูกต้องโดยจะมีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจรองรับคนไทยเดินทางกลับไทย

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับทางการเกาหลีใต้ เพื่อผ่อนผันให้แรงงานไทยที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ทำงานอย่างถูกต้อง เช่น การขยายระยะเวลาทำงาน ที่ทางการเกาหลีอนุญาตให้แรงงานทำงานได้ต่อเนื่องไม่เกิน 9 ปี ขอขยายเป็น 14 ปี และมีอายุเกิน 39 ปีได้ สำหรับแรงงานที่นายจ้างต้องการจ้างงานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องเดินทางกลับ

นอกจากนี้สั่งการให้มีการทบทวนระยะเวลาดำเนินการก่อนเดินทางให้รวดเร็วยิ่งขึ้นจากเดิม 86 วัน เหลือ 30 วันโดยประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการตรวจประวัติอาชญากรรมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และให้เจรจาขอให้รับแรงงานหญิงที่สอบภาษาเกาหลีให้เข้าทำงานมากขึ้น

นอกจากนี้ รมว.แรงงาน ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิด กรณีลักลอบไปทำงาน ขึ้นบัญชีดำบริษัทและนายหน้า ที่หลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และเร่งประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลถึงผลเสียในการลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้กรมการจัดหางานได้จัดตั้งชุดเฝ้าระวัง และตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีพฤติกรรมในการโฆษณาชักชวนคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และใช้สายตรวจออนไลน์คอยตรวจสอบ เฝ้าระวังพฤติการณ์ของขบวนการค้ามนุษย์และกลุ่มมิจฉาชีพอย่างเข้มงวด

ด้าน น.ส.พินยุดา แจ่มจันทร์ศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา(ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า ทางการเกาหลีจะมีมาตรการผ่อนผันให้แรงงานที่ลักลอบทำงาน ที่สมัครใจเดินทางกลับประเทศ ให้เตรียมตั๋วเครื่องบินพร้อมพาสปอร์ต มายังสนามบินก่อนเวลาที่จะเดินทาง 4 ชั่วโมง

ทั้งนี้ได้ประชาสัมพันธ์ แจ้งข่าวในเครือข่ายแรงงานไทย โดยขณะนี้เริ่มมีแรงงานติดต่อสอบถามทั้งโทรศัพท์และช่องทางเฟซบุ๊ก สอบถามถึงรายละเอียด และโอกาสที่จะเดินทางกลับไปยังประเทศเกาหลีได้อีกครั้งอย่างไร

"ทราบว่าในวันที่ 1 พ.ย.นี้ทางการเกาหลีจะเริ่มตรวจจับไปแรงงานที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตในสถานประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะการตรวจจับตามไซต์งานก่อสร้าง สถานบันเทิง และสถานบริการให้การนวดแผนโบราณ" น.ส.พินยุดา กล่าว

ภาพ เอเอฟพี