"กอบกู้ประโยชน์จากกัญชา" ความหวังของนักวิจัยสมุนไพรไทย

กัญชาคืออิสรภาพทางยาในระดับหนึ่ง เพราะยาต้านมะเร็งที่ติดสิทธิบัตรแพงมาก ถ้าเกิดพัฒนายาจากกัญชาได้จะช่วยประเทศชาติได้อย่างมหาศาล

*****************************

โดย...มานิตย์ สนับบุญ

“หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่กอบกู้การใช้ประโยชน์จากกัญชากลับมา”

ภญ.ดร.สุภาพร ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ผู้บุกเบิกและพัฒนาวงการสมุนไพรไทย บอกถึงความตั้งใจที่จะพัฒนา “กัญชา” พืชที่กฎหมายกำหนดให้เป็นยาเสพติด กลับมาเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์

เป็นสิ่งที่โชคดี ที่ตอนนี้ประเทศไทยกำลังมีความพยายามที่จะถอดกัญชาออกจากยาเสพติด เรื่องของกัญชาเป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ มีความพยายามของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กลุ่มหนึ่ง ซึ่งขอบคุณอย่างมาก ที่จะเข้าชื่อกันเพื่อเสนอกฎหมายเป็น พ.ร.บ.กัญชา โดยเฉพาะกัญชาเพื่อการแพทย์ เป็นสิ่งหนึ่งที่สังคมรอคอย”

ในฐานะคนที่ทำงานด้านสมุนไพร ภญ.ดร.สุภาพร บอกว่า รอเสมอว่าเมื่อไรประเทศไทยจะมียาดีๆ ประเทศไทยไม่มีโรงงานผลิตสารเคมี แต่มีพืชที่ผลิตสารเคมีเก่งๆ เสมือนโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ถ้าใช้อย่างเหมาะสมจะประหยัดค่ายาได้อย่างมากมายมหาศาล ซึ่งก็เป็นความหวังว่าถ้าเกิดว่า พ.ร.บ.กัญชาออกมา ก็จะทำให้ประเทศไทยสามารถจะมียาจากสมุนไพร มีสารเคมีที่ปลูกในประเทศของเราเอง

“บ้านเราเองมีสายพันธุ์กัญชา มีแสงแดดที่เพียงพอ ต้นทุนการผลิตจะถูกกว่าฮอลันดา อเมริกา ที่ปัจจุบันเขามีการวิจัยพัฒนายาต้านมะเร็งจากกัญชา แต่ว่าบ้านเรายังไม่ได้เริ่มต้น ทั้งที่กัญชาเป็นชื่อที่ตระกูลไตเรียกเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น ไทยในรัฐอัสสัม ไทยใหญ่ ไทยพาเจในอินเดีย แสดงว่ากัญชาคู่เผ่าพันธุ์ไทยมานาน เรารู้จักใช้ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ อย่างมาใส่หม้อต้มแกง ก็ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และไม่เป็นพิษอะไร เพราะสารในกัญชาละลายในน้ำมัน ละลายน้ำได้ปริมาณเล็กน้อยไม่มีผลอะไร และเรื่องการนำกัญชามาเป็นยา ในตำรับยามีมากมาย อย่างน้อยยานอนหลับ ประโยชน์ของกัญชามีตั้งแต่ ยาต้านมะเร็ง ยาแก้ปวด ต้านอาเจียน ทำให้หลับสบาย ช่วยการทำงานของระบบทางเดินอาหาร เป็นประโยชน์ของกัญชา รวมถึงการติดเชื้อที่ทำให้เกิดท้องเสียด้วย”

สรรพคุณมากมายของกัญชานี่เอง ที่ทำให้นักวิจัยด้านสมุนไพร สนับสนุนให้มีการอนุญาตให้ใช้กัญชาได้ในทางการแพทย์

ภญ.ดร.สุภาพร ปิติพร

“กัญชาคืออิสรภาพทางยาในระดับหนึ่งทีเดียว เพราะว่ายาต้านมะเร็งที่ติดสิทธิบัตรแพงมาก เป็นหมื่นๆ ล้านบาท ถ้าเกิดเราสามารถจะพัฒนายาจากกัญชาได้ เราก็หวังว่าจะช่วยประเทศชาติได้อย่างมหาศาล จะทำให้มียาเกิดขึ้นในประเทศ รวมถึงยาในตำรับสมุนไพรแผนไทยด้วย หวังว่าอีกไม่นานเราจะมีกัญชาใช้ทางการแพทย์”

ภญ.ดร.สุภาพร เล่าว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้มีการศึกษาค้นคว้าว่าคนสมัยก่อนใช้ประโยชน์จากกัญชาอะไรบ้าง และปัจจุบันมีการใช้กัญชาอย่างไรบ้าง

“เราศึกษาทั้งในระดับการเป็นอาหาร เช่น ในช็อกโกแลตเพื่อการผ่อนคลาย รวมไปถึงพัฒนาศึกษาขึ้นเป็นยา เราก็ติดตามความก้าวหน้าในต่างประเทศ ซึ่งก็จะเห็นว่าในแคนาดาที่มีแต่หิมะ เขาสามารถควบคุมปัจจัยการผลิต การผลิตกัญชาให้มีอัลคาลอยด์ในสิ่งที่ตนเองต้องการได้ มีการศึกษาวิจัยพัฒนาตั้งแต่ศึกษาพันธุ์ วิธีการปลูกเกิดสารสำคัญ สกัดสาร ปริมาณที่ใช้ การใช้ในโรคต่างๆ รวมไปถึงการปรับปรุงโครงสร้างของสารในกัญชาเพื่อลดอาการข้างเคียง เราต้องตามว่าเขาทำอะไรบ้าง จึงเห็นได้ว่าเราหาวิธีใช้ประโยชน์ต่อยอดใช้งานวิจัยร่วมกันได้”

ที่สำคัญ ภญ.ดร.สุภาพร เชื่อมั่นว่า หากสามารถใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้อง ก็จะเกิดประโยชน์ต่อวงการการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยอีกเป็นจำนวนมาก

คงต้องรอดูว่าความพยายามของหลายฝ่ายที่พยายามผลักดันแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด การพิจารณาเนื้อหาการถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 เพื่อใช้ทางการแพทย์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญของ สนช. จะสามารถทำได้ทันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป และ สนช.ชุดนี้จะหมดวาระไปหรือไม่