posttoday

ให้ออกจากราชการ-สอบวินัยร้ายแรง! 3ตร.สืบสวนราษฎร์บูรณะเรียกรับเงิน

26 กันยายน 2561

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล8 สั่งให้ 3 ตำรวจสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะออกจากราชการ-ตั้งกรรมการสอบวินัย พร้อมส่งเรื่อง ป.ป.ท. หลังเรียกรับเงินผู้เสียหายแลกไม่ดำเนินคดียาเสพติด

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล8 สั่งให้ 3 ตำรวจสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะออกจากราชการ-ตั้งกรรมการสอบวินัย พร้อมส่งเรื่อง ป.ป.ท. หลังเรียกรับเงินผู้เสียหายแลกไม่ดำเนินคดียาเสพติด

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 (ผบก.น.8) มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย สังกัด สน.ราษฎร์บูรณะ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ภายหลังถูกร้องเรียนว่า เรียกรับเงิน จำนวน 250,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี ตามความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากมี ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วีรวุฒิ มโนรส รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ จำนวน 3 นาย ประกอบด้วย ข้าราชการตำรวจ ยศ นายดาบ 2 นาย และจ่าสิบตำรวจ 1 นาย ร่วมกันบังคับขู่เข็ญ ผู้เสียหาย และพวก ให้นำเงินสด 250,000 บาท มาแลกเปลี่ยนกับการไม่ให้ถูกจับกุมดำเนินคดียาเสพติด เหตุเกิดที่ห้องพัก ภายในซอยพุทธบูชา 39 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2561

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าว หลังได้รับแจ้งข้อร้องเรียนดังกล่าว พนักงานสอบสวน ได้พิจารณา พยานหลักฐาน พบว่า ข้อร้องเรียนของผู้เสียหาย มีมูล และข้าราชการตำรวจที่ถูกพาดพิง เข้าข่ายความผิดข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ ซึ่งทรัพย์หรือประโยชน์อันใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”

"การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ.2542 ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ส่งสำนวนการสอบสวน ไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ท. ภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันรับคำร้องทุกข์ตาม มาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551"พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าว