ปล่อยน้ำเข้าทุ่งอยุธยา

เริ่มผันน้ำเจ้าพระยาเข้าแก้มลิงกรุงเก่า ส่งผลระดับน้ำในทุ่ง 7 แห่งเพิ่มสูงขึ้น 50 เซนติเมตร

นายเรวัต ประสงค์ รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา และนายสุชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ร่วมกันเป็นประธานปล่อยน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าทุ่งผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นแก้มลิงตามธรรมชาติ โดยจะมีการปล่อยน้ำเข้าทุ่งแก้มลิงทั้งหมด 7 พื้นที่ ประกอบด้วย ทุ่งป่าโมก ทุ่งผักไห่ ทุ่งบางบาล ทุ่งบ้านแพน ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งบางกุ่ม และทุ่งบางกุ้ง รวมเนื้อที่กว่า 6 แสนไร่ ซึ่งมีการเกี่ยวข้าวนาปรังเสร็จสิ้นแล้ว

โดยเบื้องต้นทั้ง 7 ทุ่งจะใช้เวลาผันน้ำประมาณ 7-10 วัน ให้ได้ระดับความสูง 50 เซนติเมตร รวม 200 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 20% ของความจุทั้งหมด 1,000 ล้าน ลบ.ม. เพื่อเตรียมไว้รองรับหากมีฝนตกหนักในช่วงเดือน ต.ค.นี้ โดยหากปล่อยน้ำเข้ามาจนเต็มความจุของพื้นที่แก้มลิงทั้งหมด จะมีระดับน้ำสูงประมาณ 1.5 เมตร

นายสุชาติ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำหลากในปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ จนลดความเสี่ยงและลดผลกระทบลงได้มาก การปล่อยน้ำเข้าไปเก็บในทุ่งนา เกิดจากชาวนาร้องขอให้ส่งน้ำเข้าไป สร้างความอุดมสมบูรณ์แก่ดิน ตัดวงจรศัตรูและวัชพืช รวมถึงเป็นน้ำต้นทุนที่จะใช้ทำนาปรังรอบแรกช่วงต้นปี 2562

ด้านการค้นหาผู้สูญหาย 7 ราย จากดินถล่มศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านแม่ละอูน ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน แถลงข่าวว่าพบศพแล้ว 3 ราย คงเหลืออีก 4 ราย ได้สั่งยุติการค้นหาทางบกแล้ว เหลือแค่การค้นหาทางน้ำจากจุดเกิดเหตุจนถึงแม่น้ำสาละวิน ประเทศเมียนมา ระยะทาง 25 กิโลเมตร คาดว่าอาจลอยไปทางฝั่งประเทศเมียนมาแล้ว

ทั้งนี้ สำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ ตรวจพบหย่อมความกดอากาศกำลังก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าเขตฟิลิปปินส์ในค่ำวันศุกร์หรือช่วงเช้าวันเสาร์นี้ จากนั้นอาจทวีกำลังเป็นพายุในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์หน้า

ภาพประกอบข่าว