"ดอยธิเบศร์"ยันภาพ "อ.ถวัลย์" หาย113ภาพ ลั่นมีเบาะแสใครครอบครอง

ลูกชาย "ถวัลย์ ดัชนี" เข้าพบ ผบช.น. นำหลักฐานภาพเขียนที่สูญหายมามอบให้ เผยหายทั้งหมด 113 ภาพ และมีเบาะแสว่าอยู่ในความครอบครองของใคร

จากกรณีนายดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายและผู้ดูแลมรดกของนายถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศน์ศิลป์ ปี พ.ศ.2544 ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ว่ามีภาพวาดของ อ.ถวัลย์ สูญหายไปกว่า 100 ภาพ คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายดอยธิเบศร์ พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.เพื่อสอบถามติดตามความคืบหน้าและนำหลักฐานเป็นไฟล์ภาพถ่ายภาพที่หายไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามสืบสวนหาภาพวาดที่หายไปกลับคืนมาทั้งหมด

นายดอยธิเบศร์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของคดีภาพรวมเป็นในทิศทางที่ดี ขณะที่การดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการเนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน โดยจากการตรวจสอบเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา จึงทำให้ทราบว่ามีภาพหายทั้งหมด 113 ภาพ โดยมีการบันทึกภาพไว้จำนวน 650 ไฟล์ ที่ได้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

"ส่วนกรณีของทรัพย์สินอื่นๆ นั้นหายไปด้วยหรือไม่นั้น ไม่มีทรัพย์สินอื่นๆ เกี่ยวข้องแต่อย่างใด และยินดีที่จะเปิดบ้านดำเพื่อพาสื่อมวลชนเข้าชมและตรวจสอบได้ เพราะถือว่าผมมี 2 สถานะเป็นทั้งทายาทและผู้จัดการมรดกจะดูแลทรัพย์สินทั้งหมดให้ดีที่สุด"นายธิเบศร์ กล่าว

นายดอยธิเบศร์ กล่าวว่า ภาพที่หายไปส่วนใหญ่เป็นภาพนก ทั้งที่เคยประกาศชัดเจนว่าไม่ขายรูปจะเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ หลังจากนั้นถ้าเกิดมีภาพหายออกไปหรือมีการซื้อขายหลังจากบิดาเสียชีวิต จึงสันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นภาพที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ก็มีคนส่งภาพมาให้ตนเช็คอยู่เรื่อยๆ ตนก็ดูแรกๆ ก็ไปเจอ 2-3 ภาพก่อนที่ตรงกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งได้ถ่ายภาพไว้เมื่อวันที่ 27-28 ก.ย. 2557 แต่มีภาพเหล่านั้นกับไปโผล่ปี 2560 จึงมีข้อสงสัยว่าภาพออกมาได้อย่างไร และไม่ได้ออกมาเฉยๆ มีการซื้อและขาย

"ผมจึงพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมได้ประมาณ 10 กว่าภาพ จึงไปแจ้งความเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2560 จากนั้นผ่านมาครบ 1 ปี พอดี ป้าอ๊อดได้ไปฟ้องผมเรื่องขอแบ่ง ผู้ไกล่เกลี่ยจึงบอกว่าเอาอย่างนี้แล้วกันจะแบ่งแนวทางอย่างไร อีกฝั่งบอกว่าแบ่ง 50:50 หรือ 60:40 ระหว่างนั้นทนายฝ่ายตนจึงบอกว่าให้ทำบัญชีทรัพย์ใหม่ จึงได้โอกาสตรงนี้นำทนายและทีมของเรา ทนายฝั่งเขา ตากล้องทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีตำรวจไปเป็นพยาน แล้วพาเข้าไปถ่ายภาพใหม่ซึ่งจริงๆ แล้วภาพมีประมาณ 650 ภาพ จนทราบว่าภาพภาพหายไป 113 ภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพนก"นายดอยธิเบศร์ กล่าว

นายดอยธิเบศร์ กล่าวว่า ส่วนตัวทราบเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่มีพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตามตนไม่สามารถเข้าบ้านได้เนื่องจากป้าอ๊อดล็อคบ้านไว้ แต่หลังจากที่ได้เข้าไปเก็บภาพในบ้านเมื่อวันที่ 27-28 ก.ย. 2557 ก็ทำให้ได้ข้อมูลหลักฐานในส่วนนี้จึงได้ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ว่าภาพได้ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 27-28 ก.ย. 2557 จริง เพราะฉะนั้นภาพที่หลุดออกมาหลังจากนั้นเป็นภาพที่ผิดกฎหมายหมดเลย

นายดอยธิเบศร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ปักใจ และไม่ฟันธงว่าใครเอาไป แต่เรามีพยานหลักฐานว่าเอาไปแล้วไปอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ตนมีเบาะแส 10 กว่าภาพ ว่าไปอยู่ในความครองครองใคร และหากมีใครต้องการให้ช่วยตรวจสอบภาพก็ยินดีที่จะดำเนินการตรวจสอบให้ว่าภาพนั้นจริงแท้อย่างไร

ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า ส่วนประเด็นทางพนักงานอัยการให้งดการสอบสวนนั้น เนื่องจากได้คุยกับทางอัยการแล้วว่า ทางพนักงานอัยการให้หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในขณะนั้นทางเราได้ตรวจสอบพบเพียงแค่ 3 ภาพ แล้วยังไม่ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้พิสูจน์ แต่ขณะนี้เราก็ได้มีการส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว 650 ไฟล์ภาพ ทางพนักงานอัยการก็ทราบแล้วว่าทางเรามีพยานหลักฐานใหม่แล้ว จึงให้มีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนได้

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า นายดอยธิเบศร์ ต้องดำเนินการตามศาลสั่งหากไม่ติดตามหาภาพคืนจะมีความผิดทางอาญาถ้ามีคนมาร้องเรียน เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวทำในฐานะผู้จัดการมรดก หลังจากศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีการะบุชัดว่าผู้จัดการมรดกคือ นายดอยธิเบศร์