หนุ่มโหดสารภาพใช้มีดปาดคอแมวทดสอบความคมก่อนฆ่ายาย-หลานชิงทรัพย์

ฆาตกรโหดปาดคอฆ่ายาย-หลาน สารภาพเสพยาบ้าก่อนก่อเหตุ แถมยังใช้มีดปาดคอแมวทดสอบความคม เผย ยาย-หลานออกมาพบค้นทรัพย์สินจึงฆ่าปิดปาก

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายพูลา สัญชาติลาว ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ ยาย และ หลาน รวม 2 ศพในบ้านพักย่านพระประแดง ขณะเตรียมหนีข้ามแดน เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมานั้น

เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนายพูลาเบื้องต้น ซึ่งได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุสังหารโหดจริงและเตรียมหนีกลับไปประเทศลาว

นายพูลา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้า 1 เม็ด จากนั้น เวลาประมาณตี 3 เกือบตี 4 ของวันที่ 16 ก.ย. ได้ปีนเข้าไปในบ้านของผู้ตายเพื่อต้องการขโมยทรัพย์สินนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ เนื่องจากเห็นว่าบ้านของผู้ตายเป็นร้านขายของ จึงคิดว่าน่าจะมีทรัพย์สินมากเพราะเคยมาซื้อของและเห็นผู้ตายใส่สร้อยคอทองคำ

ขณะเข้าไปบริเวณครัวพบแมวร้องจึงใช้มีดในครัวมาปาดคอแมว เพื่อทดลองความคมของมีด จากนั้นได้เข้ารื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน กระทั่งผู้ตายออกมาพบ จึงใช้มีดปาดคอผู้ตาย 3 ครั้ง จนล้มลงขณะนั้นได้มีหลานของผู้ตายมาเห็น จึงได้ปาดคอเด็กและค้นทรัพย์สินในห้องนอน

หลังก่อเหตุได้นั่งจักรยานยนต์รับจ้างจากหน้าปากซอย และเรียกรถแท็กซี่มาลงที่สถานีขนส่งหมอชิตแล้วลงมาซื้อกางเกง เสื้อ และรองเท้าชุดใหม่ เพื่อเดินทางกลับประเทศลาว โดยชุดที่ใส่ก่อเหตุได้ทิ้งไว้ที่ในห้องน้ำที่สถานีขนส่งหมอชิต จากนั้นได้บอกคนขับรถทัวร์ว่า ไม่มีบัตรประชาชนและจะเดินทางกลับ ประเทศลาว คนขับบอกค่ารถ 1,000 บาท โดยให้นั่งเบาะข้างคนขับ โดยรถเดินทางออกจากกรุงเทพประมาณ 8-9 โมงเช้า ถึงยโสธรเวลาประมาณ 15.00น.

หลังจากลงรถทัวร์ได้ให้คนในรถทัวร์พาไปขายทองได้เงินมา 7,500 บาท จ่ายให้คนในรถทัวร์ 300 บาท ค่ารถมอเตอร์ไซค์ 100 บาท จากนั้นได้พามาท่ารถทัวร์ยโสธร ซื้อตั๋วเพื่อเดินทางต่อมาที่จังหวัดมุกดาหาร มาลงที่ สถานีขนส่งมุกดาหาร ช่วงเวลาประมาณ 21.00น. แล้วจ้างรถสามล้อเครื่องโดยบอกว่า ตนเป็นคนลาวไม่มีบัตรอยากจะข้ามไปฝั่งลาว คนขับรถสามล้อเครื่องเรียกราคา 1,500 บาท แต่ตนต่อรองได้ 1,200 บาท และได้มาส่งที่ร้านขายของชำขายกับข้าว และได้นั่งกินเบียร์หมดไป 6 ขวด เพื่อนั่งรอเรือมารับข้ามไปฝั่งสะหวันนะเขต สปป.ลาว แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด