เขตบางรักเผยยอดผู้เสียหายเหตุเครนถล่มในซ.ศาลาแดง2ล่าสุด23ราย

ผอ.เขตบางรัก แจงยอดผู้เสียหายกรณีเครนถล่มในซ.ศาลาแดง 2 ล่าสุดมี 23 ราย มูลค่าความเสียหายหลักล้าน พร้อมขอความร่วมมือ กฟน.เร่งเดินสายเคเบิ้ลให้แล้วเสร็จก่อนเปิดเรียนวันจันทร์นี้

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ซอยศาลาแดง 2 ถนนศาลาแดง แขวงสีลม เขตบางรัก น.ส.ภัคภร สงวนศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางรัก พร้อมเจ้าหน้าที่โยธา ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยในจุดเกิดเหตุเครนก่อสร้างถล่มพร้อมตรวจเยี่ยมจุดรับแจ้งเหตุผู้เสียหาย โดยระบุว่า ขณะนี้สรุปยอดผู้เสียหายมาแจ้งความประสงค์วันนี้ 23 ราย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าหลักล้านบาท เนื่องจากมีรถยนต์ได้รับความเสียหายถึง 3 คัน อาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามดาดฟ้าเสียหาย ต้องนำแผ่นยิปซั่มไปปิดกันฝนชั่วคราว

นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บจากการถูกเศษหินตกใส่ ขณะที่ร้านค้าในซอยได้รับผลกระทบจากลูกค้าที่ไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้ ทั้งนี้จุดรับแจ้งเหตุจะเปิดให้ลงทะเบียนถึง 17.00น.ของวันนี้ แต่ประชาชนยังสามารถไปแจ้งเหตุได้ที่สำนักงานเขตบางรัก และสน.ทุ่งมหาเมฆได้

ผู้อำนวยการเขตบางรัก กล่าวต่อว่า ในส่วนของไซต์งานก่อสร้าง ขณะนี้ได้สั่งปิดการก่อสร้าง ไม่ให้คนเข้าออก และให้ปรับปรุงตรวจสอบอุปกรณ์ตามบัญชีแนบท้ายการขออนุญาตก่อสร้าง แต่ทั้งนี้สาเหตุน่าจะเกี่ยวข้องกับการนำเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอุปกรณ์ตามวงรอบทุก 6 เดือน แต่ขณะเกิดเหตุยังไม่ถึงวงรอบการตรวจ จึงต้องรอการตรวจสอบจากสภาวิศวกรรมและพนักงานสอบสวนของ สน.ทุ่งมหาเมฆอีกครั้ง

"ส่วนการติดตั้งเสาไฟฟ้าและระบบไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวงได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ ขณะนี้สำนักงานเขตบางรักอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่จากเครือข่ายสื่อสารต่างๆ เข้ามาเดินสายเคเบิ้ล ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน ประชาชนในซอยจึงจะสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ตามปกติ แต่สำนักงานเขตเล็งเห็นว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันเปิดเรียน อาจกระทบต่อการจราจรโดยรอบถนนศาลาแดง สาทร และสีลม จึงจะขอความร่วมมือให้เร่งเดินสายเคเบิ้ลให้แล้วเสร็จภายในเย็นวันนี้"น.ส.ภัคพรกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ศาสตรา อ่อนรัศมี ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างประงานกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ให้ติดต่อคนขับรถเครนและวิศวกรคุมงานเข้ามาให้ปากคำ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับความคืบหน้า ส่วนจะแจ้งข้อหาใด กับบุคคล ต้องรอผลการสอบปากคำผู้เสียหาย พยาน และผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน แต่คาดว่าจะเข้าข่ายความผิดกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย