ตร.จ่อฟ้องพี่บูม 17ก.ย.นี้ต้องมอบตัว

"ประสิทธิ์-เออาร์นี"พบกองปราบคดีบิตคอยน์ ขณะที่ รอง ผบก.ป. ขีดเส้น 17 ก.ย. วันสุดท้ายต้องมอบตัว ด้าน บิ๊กไอเฟคร้องถูกอุ้ม

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้บริหาร บริษัท แอพเพิล เวลธ์ และนายเออาร์นี ออตตาวา ซาอ์ริมาอ์ ผู้เสียหายชาวฟินแลนด์ที่ถูกแก๊งนายปริญญา จารวิจิต หลอกโอนเงินสกุลบิตคอยน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในคดีนี้ ซึ่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในภาพรวมกับพนักงานสอบสวนแล้ว ยืนยันว่าขณะนี้อยู่ฝ่ายเดียวกันกับนายเออาร์นี และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับนายปริญญา ซึ่งทราบข่าวมาว่ากำลังจะกลับมาเร็วๆ นี้ และพร้อมที่จะเอาความจริงมาพูดกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน

ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวว่า นายปริญญา จารวิจิต ตัวการใหญ่และเป็นพี่ชายของนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม นักแสดง จะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 15 ก.ย. แต่นายปริญญาได้ส่งทนายขอเลื่อนไป 1 เดือน แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาต และจำต้องมารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 17 ก.ย. เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณามีความเห็นทางคดีในวันที่ 19 ก.ย.นี้

สำหรับสำนวนคดีดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีให้อัยการพิจารณา ในเบื้องต้นมี 4 คน ประกอบด้วย นายปริญญา นายธนสิทธิ์ น.ส.สุพิชฌาย์ และนายจิรัชพิสิษฐ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นพี่น้องตระกูลจารวิจิต ส่วนกรณีนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายหน้าค้าหุ้น และนายชาคริต อาห์มัด สองผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงเช่นกัน ภายหลังได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับนายเออาร์นีและตกลงยอมความและถอนแจ้งความกันได้ไปก่อนหน้านี้

ด้าน นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ อายุ 60 ปี กรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือไอเฟค บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บริหารกลุ่มหนึ่งในบริษัทและขอความคุ้มครอง หลังถูกอุ้มตัว 3 ครั้งและข่มขู่ครอบครัวเพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งประธานบริหารและให้ขายหุ้นบริษัททิ้ง