posttoday

ตำรวจเตรียมสรุปคดีบิทคอยน์ไม่อนุญาตพี่ชายบูมเลื่อนรับทราบข้อหา

14 กันยายน 2561

พี่ชายบูมส่งทนายเลื่อนมารับทราบข้อหาคดีบิทคอยน์ตำรวจไม่อนุญาตต้องมาใน17ก.ย.เพราะพนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการ19ก.ย.61

พี่ชายบูมส่งทนายเลื่อนมารับทราบข้อหาแตำรวจไม่อนุญาตต้องมาใน17ก.ย.เพราะพนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการ19ก.ย.61

เมื่อวันที่ 14ก.ย.61 พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีบิทคอยน์ 797 ล้านบาทว่า นายปริญญา จารวิจิต พี่ชายของนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม นักแสดงซึ่งถือเป็นตัวการใหญ่ในคดีนี้จะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้(14ก.ย.) แต่ปรากฎว่าได้ส่งทนายความขอเลื่อนไป 1 เดือน แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาต และจำต้องมารับทราบข้อกล่าวในวันที่ 17 ก.ย.61 เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณามีความเห็นทางคดี วันที่ 19 ก.ย.61 หากไม่มาตามวันที่กำหนด ตำรวจจะพิจารณาออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงเพิ่มเติม
         
คดีฉ้อโกงที่จะสรุปสำนวนคดีให้อัยการพิจารณา เบื้องต้นมี 4 คน ประกอบด้วย นายปริญญา , นายธนะสิทธิ์ , น.ส.สุพิชฌาย์ และนายจิรัชพิสิษฐ์ ทั้งหมดเป็นพี่น้องตระกูลจารวิจิต
         
ส่วนกรณี ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายหน้าค้าหุ้น และนายชาคริส อาห์มัด2 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงเช่นกัน ภายหลังได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับนายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา ผู้เสียหายชาวฟินแลนด์ และตกลงยอมความ และถอนแจ้งความกันได้ไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้ได้สอบปากคำ ดร.ประสิทธิ์ ในฐานะพยานในคดีถือว่าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก

ล่าสุด ป.ป.ง.ได้อายัดทรัพย์ของครอบครัวนายปริญญา ทั้งหมด 226 ล้านบาท แบ่งเป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า176 ล้านบาท และเงินสดในบัญชีธนาคาร อีก 50 ล้านบาท

วันนี้ ดร.ประสิทธิ์ และนายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา ผู้เสียหายชาวฟินแลนด์ ก็ได้เดินทางมาพบ พ.ต.อ.ชาคริต ตั้งแต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา
         
ดร.ประสิทธิ์ กล่าวสั้นๆ ว่า มาพูดคุยกับตำรวจในฐานะพยานของคดี และได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในภาพรวมกับพนักงานสอบแล้ว

"ขณะนี้อยู่ฝ่ายเดียวกันกับนายเออาร์นี และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับนายปริญญา ซึ่งทราบข่าวมาบ้างว่ากำลังจะกลับมาแล้วเร็วๆนี้ และก็พร้อมที่จะเอาความจริงมาพูดกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน เพราะไม่ว่าอย่างไรความจริงก็คือความจริง" ดร.ประสิทธิ์ กล่าว