posttoday

"บทเรียนลวงโลก" จาก "สมพงษ์ เลือดทหาร" ถึง "พีท หวย90ล้าน

09 กันยายน 2561

"สมพงษ์ เลือดทหาร" อดีตคนขับแท็กซี่ผู้เคยตกเป็นข่าวดัง ฝากบทเรียนจากการก่อเหตุลวงโลกถึง "พีท" พ่อค้าหวย

"สมพงษ์ เลือดทหาร" อดีตคนขับแท็กซี่ผู้เคยตกเป็นข่าวดัง ฝากบทเรียนจากการก่อเหตุลวงโลกถึง "พีท" พ่อค้าหวย

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายสมพงษ์ เลือดทหาร อายุ 57 ปี อดีตคนขับแท็กซี่ชาว จ.ขอนแก่น ผู้ที่เคยผิดพลาดในอดีต หลังกุเรื่องลวงสังคมว่าเก็บกระเป๋าทรัพย์สินมีค่าของชาวต่างชาติที่ถูกลืมไว้ได้ในรถแท็กซี่ ก่อนนำไปส่งมอบคืนให้ เมื่อกว่า 20 ปีก่อนด้วยความนึกสนุกและคึกคะนองในขณะนั้น ได้กล่าวถึงประสบการณ์ในชีวิตของตนเองเพื่อเป็นแนวทางให้คนรุ่นหลัง ที่ก่อเหตุกุเรื่องทำนองเดียวกันซ้ำขึ้นอีกด้วยความนึกสนุกว่า ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาในครั้งนั้น ได้นำมาใช้เป็นบทเรียน เป็นสิ่งเตือนใจในการสอนบุตรหลานว่า สิ่งใดดี ไม่ดีอย่างไร ส่วนความแตกต่างระหว่างปัจจุบันกับในอดีตนั้น สำหรับในยุคนี้เทคโนโลยีการสื่อสารนั้นรวดเร็วมาก เมื่อสมัยก่อนโลกโซเชียลยังไม่มีกระแสแรงเท่ากับในสมัยนี้

"เรื่องหวย 90 ล้านที่เกิดขึ้น ผมก็เพิ่งจะได้ทราบ เพราะได้ดูข่าวถึงได้รู้ ส่วนการที่จะบอกอะไรไปถึงยัง นายธนวรรธน์ คำแหงพล หรือ พีท พ่อค้าสลากที่กุเรื่องมีคนถูกสลากรางวัลที่1 เป็นเงิน 90 ล้านบาทนั้น คงจะไปบอกอะไรเขาไม่ได้ เพราะไม่เคยรู้จักกัน แต่เราคือผู้ที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตมาก่อนจึงนำมาใช้เป็นบทเรียน และให้นึกถึงว่า เรามีครอบครัว มีลูก มีพ่อแม่ มีพี่น้อง สังคมก็ยังให้อภัย และให้คิดในทางที่ดีและตั้งใจทำมาหากิน"นายสมพงษ์กล่าว

อดีตคนขับแท็กซี่ที่เคนตกเป็นข่าวดังกล่าวอีกว่า หลังประสบการณ์ชีวิตครั้งนั้นผ่านพ้นไปแล้วปัจจุบันผู้คนก็ยังต้อนรับเรา ไม่ได้ถูกปฏิเสธจากคนในสังคม และการออกไปการร้องเพลงในร้านอาหารยังได้พบปะ เจอกับผู้คนมากกว่าขับแท็กซี่อยู่ในกรุงเทพฯ เสียอีก

"คนในสังคมจะลืมเหตุการณ์ที่ตนเคยก่อไปแล้วหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ส่วนลึกในจิตใจของเรานั้นยังคงถูกเก็บฝังใจในประสบการณ์ชีวิตเมื่อครั้งนั้นไว้โดยตลอด จึงได้นำมาสอนลูกสอนหลาน ซึ่งผมก็จะเล่าประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตให้เป็นตัวอย่างโดยไม่ได้มีการปิดบังลูกหลานแต่อย่างใด สิ่งไหนไม่ดีก็อย่าได้กระทำ เพราะปัจจุบันโลกโซเชียลมันรวดเร็วและกระแสแรงมาก"นายสมพงษ์กล่าว

นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันได้กลับมาปลูกบ้านใช้ชีวิตแบบลูกทุ่งในต่างจังหวัดบนที่ดินของภรรยาใน ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งก็เป็นชีวิตที่มีความสุขดีที่ได้อยู่กับครอบครัว และทำกินแบบเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการปลูกพืชเกษตรกรรมสวนผสม ปลูกผักผลไม้เลี้ยงไก่เลี้ยงปลาในเวลากลางวัน

นอกจากนี้ยังมีอาชีพร้องเพลงในร้านอาหารในเวลากลางคืน เพราะเป็นอาชีพที่ตนเองชื่นชอบมาก และถือเป็นอาชีพที่มีรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยมีรายได้เฉลี่ยทั้งค่าแรงรวมกับค่าพวงมาลัยแล้ว ประมาณ 1 พันบาทต่อคืน และหากวันไหนรับงานนอกหรือมีคอนเสิร์ตก็จะมีรายได้คืนละประมาณ 3,500 บาท