พี่ชายเปิดใจไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต"น้องแอ๋ม"

ปทุมธานี-พี่ชายน้องแอ๋ม เปิดใจไม่ติดใจสาเหตุการตายเร่งทำเรื่องรับศพกลับไทยบำเพ็ญกุศล เผยยังไม่ได้ติดต่อครอบครัวเพื่อนที่เสียชีวิตด้วยกัน

จากกรณี น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ "น้องแอ๋ม" อายุ 25 ปี นศ.สาวปริญญาโทรัฐบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกฆ่าตายพร้อมเพื่อนสนิท เสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์ที่รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของ นายปภาวิน หลีนวรัตน์ หรือ"เฮียย้ง" อดีต รองนายกเทศมนตรี ทต.ธัญบุรี และเป็นน้องสาวของนายวีระศักดิ์  หลีนวรัตน์ สจ.ปทุมธานี

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ก.ย. 2561 นายวีระศักดิ์  หลีนวรัตน์ สจ.ปทุมธานี พี่ชายน้องแอ๋ม เปิดบ้านพักที่หมู่บ้านภัสสร คลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดใจเกี่ยวการเสียชีวิตของน้องสาว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของสหรัฐอเมริกา สรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตชีวิตว่าเกิดจากการน้องแอ๋มถูกฆาตกรรม และเพื่อนรูมเมทฆ่าตัวตายตาม เมื่อไปถึงพบว่าพ่อและพี่ชายคนที่ 2 และพี่ชายคนที่ 3 กำลังนำเอกสารไปยื่นและส่งเรื่องการมอบอำนาจขอรับศพส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อขอรับศพลูกสาวกลับเมืองไทย

นายวีระศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องจากญาติที่ต่างประเทศที่เดินเรื่องให้ ก็ไม่ได้ติดใจเกี่ยวกับเสียชีวิตของน้อง ก็ยอมรับในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งในส่วนทางครอบครัวที่เมืองไทยก็เร่งรวบรวมเอกสารฉบับจริงเพื่อส่งไปให้กับญาติที่อยู่ต่างประเทศ พร้อมทั้งมอบอำนาจให้ญาติดำเนินการรับศพน้องแอ๋มส่งกลับเมืองไทย ส่วนทางครอบครัวที่เมืองไทยก็จะได้เตรียมเร่งรอรับศพน้องสาวและนำมาประกอบพิธีทางศาสนาซึ่งคาดว่าจะถึงไทยภายในอาทิตย์หน้านี้

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้ แต่ก็ต้องเดินหน้าทำเรื่องเพื่อรับน้องกลับมาเมืองไทย มาประกอบพิธีทางศาสนาต่อ แต่ที่ทุกคนเป็นห่วงคือพ่อ เพราะพ่อรักน้องแอ๋มมาก คอยดูแลน้องอย่างใกล้ชิด ไปรับไปส่งโรงเรียนตลอด เป็นลูกหัวแก้วหัวแหวน และเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่ๆและครอบครัวทุกคน เพราะน้องเป็นคนร่าเริง น่ารัก และจะคอยปลอบหรือเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีกันในครอบครัวเสมอ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับครอบครัวที่ต้องสูญเสียน้องไปอย่างไม่มีวันกลับ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องลางบอกเหตุล่าสุดว่าจะเกิดเรื่องสูญเสียขึ้น นายวีระศักดิ์ฯ กล่าวว่าเพิ่มมาดูรูปภาพเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ไปส่งน้องแอ๋มที่สนามบินกลับพบว่า ทั้งครอบครัวพากันไปส่งน้องกันพร้อมหน้าพร้อมตา และสวมเสื้อดำไปกันโดยไม่ได้นัดหมาย และทั้งที่หลายครั้งที่น้องจะไปต่างประเทศมักจะไปส่งกันไม่ครบแต่ครั้งนี้ไปกันครบ โดยน้องแอ๋มกอดตนเองและบันทึกภาพถ่ายภาพกันทั้งที่ปกติตนเองจะเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกอดน้องแต่ครั้งนี้มีการกอดและลูกหัวเล่นกันอย่างมีความสุข ไม่คิดว่าจะเป็นการอำลากันครั้งสุดท้ายแบบนี้

อย่างไรก็ตามตอนนี้ต้องพยายามเข้มแข็งเพื่อเดินหน้า ดูแลพ่อและครอบครัวต่อไป และรอรับน้องสาวกลับเมืองไทย พร้อมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดนาบุญ คลองเจ็ด ซึ่งเป็นวัดที่แม่อยู่ ก็ต้องให้น้องไปอยู่กับแม่ที่นั่น ส่วนทางครอบครัวของเพื่อนน้องแอ๋ม หลังจากทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดก็ยังไม่ได้ติดต่อกันแต่อย่างใด