เรียกสอบปากคำ!คนขายอาหารเสริมอ้างสรรพคุณเกินจริงทำ"ยายตาบอด"

ตำรวจเตรียมเรียกสอบปากคำ 2 พนักงานขายอาหารเสริมอ้างสรรพคุณเกินจริง จนคุณยายนำไปหยอดตาจนติดเชื้อรุนแรงจนต้องสูญเสียดวงตา

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ฉุยฉาย ผกก.สภ.เวฬุวัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประกอบ พาลา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เวฬุวัน ลงพื้นที่สอบปากคำ นางคำแงง สุวรรณะ อายุ 56 ปี ชาว บ้านโนนลาน ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังจากที่นางคำแงงนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดน้ำ กล่องสีเขียว เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดกับผลิตภัณฑ์และพนักงานขาย เนื่องจากมีการนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวหยอดใส่ตาข้างขวา ตามที่พนักงานขายแนะนำ จนเป็นเหตุให้ตาบอด

นางคำแงง กล่าวว่า เมื่อราว 2-3 เดือนก่อนหน้านี้มีพนักงานขายยา 2 คน มาเร่ขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าวในราคาขวดละ 1,100บาท ซึ่งทั้งสองคนอธิบายสรรพคุณให้ฟัง โดยตนมีอาการปวดเข่า ปวดขาทั้งสองข้าง จนเดินไม่ได้ เมื่อฟังสรรพคุณยา จึงซื้อมารับประทาน โดยคนขายได้แนะนำว่า ใช้หยอดตาได้ด้วย ตาจะใสไม่ขุ่นมัว

จากนั้นได้รับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าวจนหมดขวด อาการปวดขาดีขึ้น จนเกือบจะเดินได้ แต่ไม่ได้หยอดตา จึงติดต่อซื้อขวดที่สอง พนักงานขายคนเดิมก็นำมาส่งที่บ้าน และก็แนะนำให้ใช้หยอดตาด้วยเพื่อรักษาโรคต้อเนื้อที่เป็นอยู่

"เมื่อหยอดเพียง 1 หยดรู้สึกแสบร้อนทั้งดวงตา และมีน้ำตาไหลไม่หยุด แต่ก็ทนเพราะคิดว่าจะดีขึ้น และได้หยอดตา วันเว้นวัน รวมทั้งหมด 6 ครั้ง อาการไม่ดีขึ้น อีกทั้งตาข้างขวามองไม่เห็น จึงไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา แพทย์ผู้ตรวจ แจ้งว่า ตาเน่า เป็นหนอง ติดเชื้อรุนแรง ต้องผ่าตัดเอาตาออกเท่านั้น ได้ยินแบบนั้นถึงกับเข่าทรุดทำอะไรไม่ถูก ตัวสั่นไปหมด เพราะหมอบอกว่า มาพบหมอช้าไป การรักษามีเพียงทางเดียวคือต้องผาตัดเอาตาออก ไม่เช่นนั้นการติดเชื้อจะลุกลามได้ ครอบครัวจึงตัดสินใจยอมให้หมอผ่าตัด เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา"

นางคำแงง กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ใช้น้ำยาหยอดตาแล้วมีอาการแสบ ร้อนในตา ก็โทรศัพท์ไปแจ้งพนักงานขาย ซึ่งได้รับคำตอบว่าอาการจะดีขึ้นเอง เพราะยาจะค่อยๆกัดเอาต้อเนื้อในตาออก แต่สุดท้ายตาก็บอด ซึ่เมื่อผ่าตัดตาเรียบร้อยได้โทรไปแจ้งกับพนักงานคนเดิม กลับถูกปฏิเสธไม่รับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น และโยนความผิดไปให้กับบริษัทผู้ผลิตอาหารเสริมดังกล่าว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้ที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ฉุยฉาย ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวว่า เมื่อผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และพบความเสียหายเกิดขึ้นต่อชีวิตและร่างกาย จำเป็นต้องลงพื้นที่สอบสวนให้ละเอียด เพราะถือว่าคนที่แนะนำคุณยายทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะพนักงานขายมีหน้าที่ขายแนะนำสรรพคุณตามฉลากข้างขวดก็จบ ไม่ใช่ อวดอ้างสรรพคุณจากความคิดของตัวเอง จนกลายเป็นอันตรายต่อผู้อื่น

จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าวนี้ มีการผลิตและมี อย.ถูกต้อง โดยระบุชัดเจนว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค แต่พนักงานขายซึ่งเสมือนว่าเป็นผู้แทนของบริษัทฯนำอาหารเสริมออกมาขาย แล้วมาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงกับลูกค้าหรือผู้บริโภค ประเด็นดังกล่าว จึงอยากให้บริษัทฯออกมาดูแลเยียวยาผู้เสียหายด้วย ขณะที่ในส่วนของความผิดนั้น เป็นเรื่องของตัวบุคคล คือผู้ที่นำอาหารเสริมมาขายให้กับคุณยาย แล้วแนะนำลูกค้าว่า ดื่มได้ ใช้หยอดตาก็ดี เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

"วันนี้เราได้หลักฐานเป็นคลิปเสียงที่มีการพูดคุยระหว่างผู้เสียหายกับคนขายอาหารเสริมด้วย รวมถึงคลิปที่คนขายอาหารเสริม ใช้อาหารเสริมชนิดนี้หยอดตาตัวเองให้ผู้เสียหายดูอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดพนักงานสอบสวนจะรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดนี้ ใช้รับประทานเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับหยอดตา

"คุณยายและสามียืนยันตัวบุคคลที่นำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมาขายให้และแนะให้ใช้หยอดตารักษาต้อเนื้อในตาแล้วว่า มีสองคน เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อที่อยู่หมดแล้ว และออกหมายเรียกมาสอบปากคำไว้ก่อน หากพบความผิดก็จะแจ้งข้อหาในลำดับต่อไป แต่ในเบื้องต้นจะต้องเรียกตัวมาสอบปากคำ เพราะผู้เสียหายยืนยันว่าทั้งสองคนคือผู้ที่ขายให้ และได้แบ่งใส่ขวด ให้นำไปหยอดตา กระทั่งตาบอด

"ขณะที่บริษัทเจ้าของอาหารเสริม ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ทำให้ลูกค้าตาบอด แต่เป็นการกระทำของตัวบุคคล พร้อมกันนี้จะตรวจสอบด้วยว่ามีการอบรมพนักงานขายอย่างไรบ้างในการเสนอสินค้าต่อลูกค้า"พ.ต.อ.วัชรพงศ์ กล่าว