ครอบครัวร้องกองปราบ! ทหารเกณฑ์ดับปริศนาที่ร้านอาหารแต่คดีไม่คืบ

ครอบครัวเข้าร้องกองปราบฯ หลังพลทหารถูกแทงดับปริศนา หลังเพื่อนทหารเกณฑ์ชวนไปสังสรรค์ย่านปิ่นเกล้า แต่คดีไม่คืบ

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ครอบครัว พลทหารบุญฤทธิ์ เอี่ยมสิริลักษณ์ หรือเก่ง ทหารเกณฑ์สังกัดกองทัพภาคที่ 1 พร้อมด้วย นายวรินทร์ อัฐนาค ประธานชมรมโดมเพื่อคุณธรรม ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่พลทหารบุญฤทธิ์ ถูกเพื่อนทหารเกณฑ์ด้วยกัน ชวนไปสังสรรค์ที่ร้านอาหาร ชื่อดัง ย่านปิ่นเกล้า ก่อนจะเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา

นางรัชนก แซ่ลิ่ม มารดาของพลทหารบุญฤทธิ์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุบุตรชายได้ขอลาพักร้อนกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักย่านปิ่นเกล้า ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ได้มีเพื่อนทหารเกณฑ์ของบุตรชาย ชักชวนให้ออกไปกินข้าวสังสรรค์กันที่ร้านอาหาร ซึ่งตนก็รู้สึกเป็นห่วงบุตรชายที่ขอออกไปกับเพื่อน จนประมาณเที่ยงคืนวันเดียวกัน ตนได้โทรศัพท์ไปหา แต่ปรากฏกลับมีผู้ชายอีกคนรับสายแทน โดยบอกกับตนว่าบุตรชายหมดสติ ขณะนี้กำลังช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนที่เสียงปลายสายจะเงียบหายไป ทำให้รู้สึกตกใจและเป็นห่วงบุตรชายอย่างมาก

หลังจากนั้นได้พยายามโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์บุตรชายอีกหลายครั้ง จนมีผู้รับสายและได้แจ้งว่า บุตรชายถูกส่งไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา จึงรีบเดินทางไปทันที แต่ปรากฏว่า พบบุตรชายมีบาดแผลถูกแทงที่ลำคอซ้าย และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นครอบครัวได้ได้เข้าแจ้งความที่ สน.บางยี่ขัน แต่ตำรวจแจ้งมาว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของทหาร ขอร้องทางญาติว่าอย่าไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ตำรวจจะจัดการคดีนี้เอง โดยมีการลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น

จากนั้นได้สอบถามไปยังนายทหารยศ พ.ต.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของบุตรชาย ก็ได้รับแจ้งเพียงว่าจะนำตัวทหารเกณฑ์ทั้งหมดไปสอบสวน พร้อมยืนยันว่าจะดูแลคดีให้ รวมทั้งได้ช่วยเหลือค่าทำขวัญเป็นเงิน 2 แสนบาท แต่ทางครอบครัวไม่ขอรับไว้ ซึ่งจนถึงขณะนี้เรื่องยังไม่มีความคืบหน้าจึงเข้าร้องเรียนต่อกองปราบปราม

ด้าน นายวรินทร์ กล่าวว่า อยากให้ทางตำรวจ บก.ป.ช่วยสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ สำหรับศพของผู้เสียชีวิตขณะนี้ทราบว่าได้เก็บไว้ที่วัดบางยี่ขัน โดยญาติจนเก็บศพไว้จนกว่าจะหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้

ขณะที่ พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

ภาพจาก www.policenews.co.th