"ยาบ้า-ไอซ์"ทะลักไทยพุ่ง ปปส.แฉนักเคมีไต้หวันเข้าแก๊งร่วมผลิต

ป.ป.ส รับ"ยาบ้า-ไอซ์"ทะลักเข้าไทยเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว แจงยังไม่สิ้นปีจับยาบ้า 300 ล้านเม็ด-ไอซ์ 15,000 กก.ยิ่งจับมากกลุ่มผู้ค้าฯเร่งเพิ่มกำลังผลิต2- 3 เท่าตัวพร้อมใช้นักเคมีใต้หวันหาสารเคมีตัวใหม่แทนตัวที่ถูกสกัดจับ

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด( ป.ป.ส.)ได้นำ พล.ต. ดร. สมหวัง ทำมะสิด รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและคณะจาก สปป.ลาว เข้ารับฟังการบรรยายยายสรุปโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัยที่ศูนย์ปฏิบัติการป.ป.ส. ซึ่งระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายนนี้ทางสปป.ลาวจะเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในการเปิดศูนย์ปฎิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยอย่างถาวรที่นครเวียงจันทน์

นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า ศูนย์ปฎิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยเกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 6 ประเทศ ไทย ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ จีน และเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2559-2561 ซึ่งหลังจากเปิดศูนย์ฯและมีความร่วมมือทางด้านการข่าวทำให้ทุกประเทศมีสถิติการจับกุม สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์รวมทั้งยาเสพติด ทั้งยาบ้าและไอซ์ได้เพิ่มขึ้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาสามารถจับกุมยาเสพติดได้ทั้งหมด 1.1 ล้านกิโลกรัม และจะเห็นได้ว่าต้นปี2561 จนถึงเดือนกันยายนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมยาบ้าจำนวน 300 ล้านเม็ด ซึ่งสูงกว่าปี 2560 ทั้งปีจับกุมได้ 214 ล้านเม็ด ส่วนยาไอซ์ปีที่แล้วจับกุมได้ 5,000กิโลกรัม แต่ปัจจุบันผลการจับกุมอยู่ที่ 15,000 กิโลกรัม

"จากข้อมูลด้านการข่าว เราพบว่ามีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในปริมาณที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากพื้นที่เขตปกครองพิเศษของกลุ่มว้าทั้งที่เมืองยอน ปางซาง อย่างไรก็ตาม แม้ไทยและประเทศเพื่อนบ้านจะมีศักยภาพการจับกุมเพิ่มแต่กลุ่มผู้ค้าฯก็ยังมีการผลิตทดแทนเพิ่ม 2-3 เท่าตัว และพยายามหาสารเคมีตัวใหม่ขึ้นมาแทนสารเคมี และสารตั้งต้นฯที่ถูกจีนและไทยสกัดไม่ให้เข้าไปยังพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยมีนักเคมีชาวใต้หวันเข้ามาร่วมผลิต"เลขาฯป.ป.ส กล่าว

เลขาธิการฯป.ป.ส ยังกล่าวอีกว่า สำหรับยาไอซ์จะถูกลักลอบส่งไปจำหน่ายทางใต้ก่อนจะออกไปประเทศที่สาม ขณะที่ยาบ้าตลาด 80 เปอร์เซ็นต์ยังจำหน่ายให้คนไทยก่อนจะกระจายไปในพื้นที่ต่างๆทั้งกทม.และเขตปริมณฑล และกลุ่มผู้ค้าฯพยายามหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้รถปิคอัพขนมาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และเช่าโกดังเก็บในพื้นที่ภาคเหนือเช่น จ.เชียงใหม่ เชียงราย จากนั้นจึงใช้รถสิบล้อขนต่อมาพักไว้ในพื้นที่ภาคกลาง โดยซุกซ่อนมากับพืชผลทางการเกษตร เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่และให้รอดจากการถูกตรวจค้น

"เครือข่ายใหญ่ผู้ค้ายา ฯมี 30 เครือข่าย แต่เราทลายเครือข่ายไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง ต้องยอมรับว่าชนเผ่าที่ค้ายามีศักยภาพสูง และมีความเชื่อมโยงกันในหลายประเทศ เมื่อ 2สัปดาห์ทีผ่านมาทางฝั่งท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมาร์และแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวก็จับกุมได้ล็อตใหญ่หลายล้านเม็ด กลุ่มผู้ค้าฯเตรียมขนเข้ามาไทยแต่ทั้ง2 ประเทศสกัดกั้นไว้ได้ก่อน เช่นเดียวกับจีนที่สกัดสารตั้งต้นได้ที่เมืองยูนนานถึง 600,000 กิโลกรัม"นายศิรินทร์ยา กล่าว