posttoday

ผบช.น.สั่งเร่งล่าสตัวคนร้ายบุกปล้นธนาคารในห้างย่านพระราม3

16 สิงหาคม 2561

ผบช.สั่งเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายปลุกปล้นธนาคารในห้างย่านพระราม 3 กล้องวงจรปิดเผยพฤติกรรมสุดใจเย็น ก่อนขี่รถหลบหนีอย่างชำนาญ

ผบช.สั่งเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายปลุกปล้นธนาคารในห้างย่านพระราม 3 กล้องวงจรปิดเผยพฤติกรรมสุดใจเย็น ก่อนขี่รถหลบหนีอย่างชำนาญ

จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายวัยกลางคนก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารภายในห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. ได้เงินสดไป 510,000 บาท ก่อนขี่จักรยานยนต์ฮอนด้าสีขาวหลบหนีไปเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ส.ค. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีโดยมี พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผกก.สน.วัดพระยาไกร พ.ต.ท.ชนันทร์ เปรมปลื้มจิตต์ รอง ผกก.สส.สน.วัดพระยาไกร โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ท.ชาญเทพ เปิดเผยว่า การสืบสวนในคดีนี้มีความคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้วซึ่งจากการก่อเหตุเชื่อว่ามีมากกว่า 1 คน เพราะมีบุคคลที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาด้วย ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดนั้นขณะนี้กำลังไล่เส้นทางการหลบหนีออกจากจุดที่ก่อเหตุอยู่ระหว่างการไล่กล้องเพิ่มอยู่

ขณะที่การสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานที่เป็นพนักงานของธนาคารไปแล้ว 3 ปากไม่พบข้อพิรุธ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องรอตรวจสอบ อีกทั้งรอผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากกระดาษที่คนร้ายเขียนก่อนจะยื่นให้เจ้าหน้าที่ธนาคารก่อนนำมาเทียบเคียงกับคนร้าย อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ในเร็ววัน ขอเวลาทำงานคาดว่าไม่นานจะมีข่าวดี

รายงานข่าวแจ้งว่า เส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อนก่อเหตุและเส้นทางที่ใช้หลบหนีจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบว่า ก่อนก่อเหตุพบว่าคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากเจริญกรุง 107 หรือซอยประดู่ และใช้เส้นทางถนนพระราม 3 ก่อนจะขับรถไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมัน ย่านถนนเจริญราษฏร์ จากนั้นได้ขับตรงไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อก่อเหตุ

หลังจากก่อเหตุเสร็จได้ขี่จักรยานยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุใช้เส้นทางหลบหนีถนนรัชดาภิเษก-พระราม 3 และขณะนี้ทราบจุดสุดท้ายคือจุดใต้ทางด่วนถ.พระราม3 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบกล้องเพิ่มเติมเพื่อหาเส้นทางหลบหนีต่อ

ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในย่านพระราม 3 เนื่องจากมีความชำนาญในการใช้พื้นที่ในการก่อเหตุ ขณะที่ทะเบียนรถคันที่ใช้ก่อเหตุตรวจสอบกล้องพบว่ามีการติดทะเบียน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นทะเบียนจริงหรือปลอมหรือเลขหมวดอักษรอะไร

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายมีความใจเย็นมากเนื่องจากก่อนจะลงมือก่อเหตุได้เดินมาดูลาดเลาแล้วประมาณ 10 นาที จากนั้นพนักงานรักษาความปลอดภัยได้เดินออกไป คนร้ายได้เดินกลับมายังรถจักรยานยนต์ใส่หมวกกันน็อคเพื่อจะเตรียมตัวก่อเหตุ แต่เมื่อเดินไปถึงบริเวณหน้าธนาคารก็เดินกลับมายังรถจักรยานยนต์อีกครั้งและเปลี่ยนจากใส่หมวกกันน็อคเป็นใส่หมวกแก๊ป และในเวลาไล่เลี่ยกันก่อคนร้ายจะเข้าก่อเหตุมีพนักงานส่งเอกสารเดินสวนออกมาพร้อมคุยโทรศัพท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่