posttoday

ทลายเครือข่าย"โอดีแคปปิตอล"ล็อต2 จับแล้ว 10 ราย

13 สิงหาคม 2561

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์แถลงจับเครือข่ายกลุ่มโอดีแคปปิตอลหลอกประชาชนลงทุนล็อต2 จำนวน 10 ราย เผย คนมีสีมีเอี่ยวในขบวนการ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์แถลงจับเครือข่ายกลุ่มโอดีแคปปิตอลหลอกประชาชนลงทุนล็อต2 จำนวน 10 ราย เผย คนมีสีมีเอี่ยวในขบวนการ

สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมเครือข่ายกลุ่มโอดีแคปปิตอล ตามความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ที่ดำเนินการในลักษณะบริษัทโฮลดิ้งโดยจะนำเงินไปลงทุนในบริษัทหรือกิจการอื่นๆ ผ่านการระดมทุนจากประชาชนด้วยวิธีโฆษณาชวนเชื่อต่อๆ กันบนโลกออนไลน์โดยเสนอให้ผลตอบแทนที่สูงเกินจริง ซึ่งมีประชาชนผู้เสียหายจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอ ศ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทาง เทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พร้อมคณะทำงานจากหลายภาคส่วน รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. แถลงขยายผลการทลายเครือข่ายโอดีแคปปิตอลชุดที่ 2 โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กระบวนการกลอุบายลักษณะนี้เริ่มมีมากขึ้น ซึ่งในการจับกุมล็อต 2 มีผู้เสียหายสูญเงินรวมมูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท

ขณะที่ผู้ต้องหาในล็อตแรกที่ได้จับกุมไปแล้ว 29 ราย จาก 32 ราย โดยอีก 3 รายหลบหนีอยู่ต่างประเทศ มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติเป็นหัวหน้าขบวนการ

"ในชุดที่ 2 ได้ติดตามจับกุม 1 สัปดาห์หลังขอศาลอนุมัติหมายจับจำนวน 16 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 10 ราย ขณะที่ 3 รายติดต่อขอมอบตัวแล้ว โดยบางส่วนได้หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว รวมยอดการจับกุมทั้งหมดทั้งสองชุดแล้ว 39 คน เรียนว่า การขยายผลแต่ละครั้งต้องอาศัยผู้เสียหายเป็นหลักเพื่อเชื่อมโยงการตามจับกุมผู้ต้องหา"

"ขอให้ผู้เสียหายไม่ต้องกังวล ผมได้ประสานไปยัง ปปง.แล้ว ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินและให้ดำเนินการอายัตเงินจำนวน 102 ล้านบาท เพื่อทำการเฉลี่ยทรัพย์และนำเงินคืนผู้เสียหาย ยิ่งได้ข้อมูลมากก็จะอายัตได้เร็วมากเท่านั้น และจะได้นำทรัพย์เฉลี่ยคืนประชาชนได้เร็วมากที่สุด ขณะนี้ การตรวจสอบทรัพย์สินก็คืบหน้าไปมากแล้ว อาจยังไม่เห็นผลทันที แต่ผมขอยืนยันว่าเร็วแน่นอน"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในการหลอกลวงลักษณะเช่นนี้มีวิธีการเดิม หลอกเอาเงินไปลงทุนซึ่งตามจริงไม่มีเลย เป็นการเอาเงินปันผลของสมาชิกมาหมุนเวียนกันเองในช่วงแรกเหมือนงูกินหาง ดังนั้น หากมีการชักชวนลงทุนในลักษณะใดในช่องทางออนไลน์ ให้สอบถามไปยัง 1155 จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบว่าสามารถลงทุนได้จริงหรือไม่

น.ส.นวพร เต่าทอง หรือ ดีเจกบ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนได้รับความเสียหายจากการถูกชักจูงให้มาร่วมลงทุนตั้งแต่เมื่อปี 2559 ซึ่งมีรูปแบบขบวนการเข้ามาหาในลักษณะที่เป็นคนหน้าตาดีหลายคนมาทำความรู้จักผ่านเฟซบุ๊ก อ้างเอาเงินจำนวนมากมาหลอกล่อที่ไม่อาจหาจากการลงทุนที่อื่นนอกจากโอดีแคปิตอล ซึ่งในกรณีของตนที่มีนายสหรัฐ เป็นคู่กรณี ได้เข้ามาจีบและคบเป็นแฟน พยายามที่จะให้เข้าเป็นสมาชิก โดยระหว่างนั้นที่ตนอยู่ในกลุ่มก็ได้พบว่ามีการล็อกระบบการจ่ายเงิน และไม่คืนเงินต้นใดๆทั้งสิ้น

น.ส.นวพร กล่าวต่ออีกว่า หัวหน้าขบวนการมีจิตวิทยาในการพูดคุย ทำให้ผู้คนยังรอ เพราะกลัวจะไม่ได้เงินคืน ต่อมาก็มีการเปิดโอดี 2 ขึ้นแต่ยังไม่มีการเคลียร์เงินในส่วนแรก และไม่รู้ว่าเงินก้อนแรกหายไปไหนแล้ว พร้อมเสนออีกว่า หากเป็นสมาชิกต่อไป และหาคนมาเข้าร่วมเพิ่มก็จะได้เงินปันผลเพิ่ม ซึ่งแต่ละครั้งกำหนดเงินขั้นต่ำในการลงทุน 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท ซึ่งตนสูญเงินไป 2 แสนบาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการจับกุม 3 กลุ่มใหญ่แล้ว เร็วๆ นี้จะมีการจับกุมอีกในจังหวัดขอนแก่น เรื่องการปล่อยเงินกู้นอกระบบและการฉ้อฉนโฉนดที่ดินของประชาชนมาเป็นของตัวเอง จะดำเนินการยึดทรัพย์ให้หมด ซึ่งในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหมจะเดินทางไปมอบที่ดินคืนให้ประชาชนด้วยตัวเอง

เมื่อถามว่า ยังมีกลุ่มลักษณะนี้อีกมากหรือไม่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การแตกตัวของกลุ่มเหล่านี้ลดลงมาก นับแต่การปราบปรามอย่างหนักหน่วงตลอดเดือนที่ผ่านมา สำหรับขบวนการในภาคอีสานนั้นไม่เกี่ยวข้องกันกับขบวนการนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกินเดือนในการดำเนินมาตรการต่างๆ ซึ่งในชุดแรกที่จับกุมไปก็มีบุคคลมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งกำชับมาว่า ถึงจะเป็นคนนอกเครื่องแบบหรือในเครื่องแบบก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเดียวกันทั้งหมด