posttoday

เฝ้าระวัง9จังหวัดฝนหนักสะสม

13 สิงหาคม 2561

ปภ.ชี้สถานการณ์น้ำยังหนักหน่วงใน 9 จังหวัด แต่คลี่คลายแล้ว 22 จังหวัด

ปภ.ชี้สถานการณ์น้ำยังหนักหน่วงใน 9 จังหวัด แต่คลี่คลายแล้ว 22 จังหวัด

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุโซนร้อนเซินติญ ยังคงมีผลกระทบใน 9 จังหวัดของประเทศไทย คือ 1.นครพนม น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 12 อำเภอ 2.อุบลราชธานี ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เขื่องใน 3.บึงกาฬ น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ 5 อำเภอ 4.สกลนคร ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 2 อำเภอ

5.กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 6.ยโสธร น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 7.เพชรบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 8.สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ และ 9.ชุมพร เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี 22 จังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

ด้านศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.เพชรบุรี โดยที่เขื่อนแก่งกระจานที่มีปริมาณน้ำ 728 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 102% ของความจุอ่าง ซึ่งการระบายน้ำเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งกาลักน้ำรวม 15 ชุด สามารถระบายน้ำไหลออกทางท้ายเขื่อนผ่านเขื่อนเพชรได้ 175 ลบ.ม./วินาที นอกจากนี้ยังได้การลดปริมาณน้ำหน้าเขื่อนเพชร แบ่งเป็นเข้าคลอง D9 อัตรา 15 ลบ.ม./วินาที และเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่ง 63.58 ลบ.ม./วินาที รวมทั้งหมด 78.58 ลบ.ม./วินาที

นอกจากนี้ ในส่วนสถานการณ์เขื่อนกักเก็บน้ำจำนวน 4 แห่งนอกจากเขื่อนแก่งกระจาน พบว่าทุกแห่งมีปริมาณกักเก็บเกินกว่า 80% ของความจุอ่างแล้ว โดยเขื่อนน้ำอูน ปริมาตรน้ำ 535 ล้าน ลบ.ม. หรือ 103% เขื่อนศรีนครินทร์ ปริมาตรน้ำ 1.5 หมื่นล้าน ลบ.ม. หรือ 87% เขื่อนวชิราลงกรณ ปริมาตรน้ำ 7,569 ล้าน ลบ.ม. หรือ 85% และเขื่อนรัชชประภา ปริมาตรน้ำ 4,775 ล้าน ลบ.ม. หรือ 84%

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนพายุดีเปรสชั่นที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าประเทศเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบฝนตกหนักในบางแห่งโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 15-16 ส.ค.นี้ และอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมถึงดินโคลนถล่ม จึงขอให้ประชาชนระวังผลกระทบจากพายุ

อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาเดียวกันบริเวณยังมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และขอให้ประชาชนและชาวประมงติดตามประกาศจากกรมอุตุฯ อย่างใกล้ชิด