"ผมดีใจที่จะได้เป็นคนไทย เพราะรอมา 9 ปี" หม่อง ทองดี ในวันที่คำสัญญากำลังเป็นจริง

เผยความรู้สึกและชีวิตของ หม่อง ทองดี เด็กหนุ่มไร้สัญชาติที่รอคำสัญญาการได้เป็นพลเมืองไทยเต็มขั้นมากว่า 9 ปี

-------------------------------------------------------

โดย...ทีมข่าวโพสต์ทูเดย์ออนไลน์

เมื่อปี 2552 ชื่อของ หม่อง ทองดี เด็กชายผู้ไร้สัญชาติวัย 12 ปี โด่งดังมากในสังคมไทย หลังเดินทางไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ด้วยการคว้าแชมป์การแข่งขันพับเครื่องบินกระดาษ ที่ประเทศญี่ปุ่น จนผู้ใหญ่ในรัฐบาลสมัยนั้นสัญญาจะช่วยให้ได้เป็นคนไทยเต็มขั้น แต่ผ่านหลายรัฐบาล เขาก็ยังเป็นคงเป็นคนไม่มีสัญชาติเช่นเดิม

แต่ทว่าตอนนี้ความฝันของ หม่อง ในช่วงอายุ 21 ปี กำลังกลายเป็นจริง เมื่อกรมการปกครอง แจ้งว่า จะมอบสิทธิการเป็นพลเมืองไทยเต็มขั้นให้อีกไม่นาน

อดีตแชมป์พับเครื่องบินกระดาษผู้เคยโด่งดัง เผยความในใจว่า เมื่อทราบข่าวกำลังจะได้สิทธิการเป็นพลเมืองไทย รู้สึกดีใจมาก เหมือนเป็นความหวังอีกครั้ง เพราะรอโอกาสนี้มานานมาก “ผมรู้สึกดีใจที่จะได้เป็นคนไทยเต็ม 100 เพราะรอมา 9 ปี”

ขณะที่ขั้นตอนการยืนขอสิทธิ ตอนนี้ได้รวบรวมผลงานส่วนหนึ่งที่เคยทำประโยชน์ให้ประเทศ ยืนเสนอให้กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 และยังคงรอหนังสือรับรองจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เคยได้ไปทำประโยชน์ให้นำมาใช้ประกอบการยื่นขอสัญชาติ หากดำเนินการเสร็จก็จะได้รับบัตรประจำตัวประชาชน และถือว่าเป็นคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์

หม่อง บอกว่า การมอบสิทธิดังกล่าวในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องรอให้เรียนจบปริญญาตรี เพราะเป็นผู้ที่เคยสร้างคุณงามความดีให้ประเทศชาติ  

ชายผู้ไร้สัญชาติคนนี้ เผยความในใจว่า ตลอด 9 ปีแม้ยังไม่ได้สิทธิการเป็นคนไทย แต่ที่ผ่านมาสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ทั้งเรื่องเรียนและการทำงาน ซึ่งตอนนี้ศึกษาหลักสูตรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และคอยรับงานเป็นผู้ฝึกสอนพับเครื่องบินกระดาษ ให้เด็กโรงเรียนบ้านห้วยทราย ในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงรับงานถ่ายภาพมุมสูงด้วยอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ด้วย

อดีตแชมป์พับเครื่องบินกระดาษ เผยว่า สิ่งแรกเมื่อได้รับสิทธิเป็นคนไทย อยากมีบ้านเป็นของตัวเองเพื่อให้พ่อกับแม่ได้อยู่อาศัย เพราะตอนนี้เช่าบ้านอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ส่วนอาชีพแม้ไม่ได้เป็นนักบินตามความฝัน เพราะไม่ได้เรียนมาทางนี้ แต่คิดว่าจะเลือกลงเรียนสายที่ชื่นชอบเพื่อจะได้มีอาชีพไว้เลี้ยงดูครอบครัว

หม่อง ทิ้งท้ายว่า ขอบคุณคนที่คอยติดตามช่วยเหลือและให้กำลังใจมาตลอด ซึ่งตอนนี้ความฝันที่รอมานานกำลังจะกลายเป็นจริง “ขอบคุณทุกคนนะครับ ที่คอยให้กำลังใจมาตลอด ตอนนี้ผมกำลังจะได้แล้ว”