จำคุกอดีตพระเณรคำ3ข้อหา ให้ชดใช้เงินคืนผู้เสียหาย29ราย

ศาลอาญาพิพากษาจำคุกอดีตพระเณรคำ 114 ปี ฉ้อโกง-พรบ.คอมฯ-ฟอกเงิน แต่จำคุกจริง 20 ปี พร้อมสั่งชดใช้เงินคืนผู้เสียหาย 29 ราย

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายวิรพล สุขผล หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำ จำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ปี 2552, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และฐานฟอกเงิน

อัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2552-27 มิ.ย.2556 จำเลยได้ใช้ความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา หลอกลวงแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงว่า จำเลยเป็นประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.อุบลราชธานี และอ้างว่าได้นิมิตพบองค์อินทร์ ขอให้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ต้องใช้หยกเขียวแท้จากประเทศอิตาลี

ต่อมา จำเลย ประกาศชักชวนให้ประชาชนนำเงิน ทองคำ และทรัพย์สินมาบริจาคที่วัดป่าฯ โดยจัดตู้บริจาค 8 ตู้ รวมทั้งได้ใช้เว็บไซต์ www.Luangpunenkham.com เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการจัดสร้างสิ่งต่างจนมีผู้เสียหาย 29 ราย หลงเชื่อ ร่วมบริจาคเงินและทรัพย์สินต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 28,649,553 บาท จำเลยโอนเงิน 1,130,000 บาทที่ได้จากการฉ้อโกงไปซื้อรถตู้โตโยต้า 1 คัน โดยทุจริต ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยไม่ได้ก่อสร้างใดๆ เลย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า การอวดอ้างนิมิตถึงพระอินทร์แล้วหลอกลวงให้ประชาชนที่เคารพศรัทธา ที่เป็นพุทธศาสนิกชนหลงเชื่อจนบริจาคเงินให้ แล้วนำไปซื้อรถปอร์เช่ รถตู้ รถกระบะ กลาย 10คัน รวมทั้งใช้เงินเกินความจำเป็นความเป็นสงฆ์ กระทั่งจำเลยก็ถูกศาลแพ่งริบทรัพย์ 43,478,992 บาทนั้น ฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยนั้นผิดตามฟ้อง

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกรรมเป็นกระทงความผิดไปจึงพิพากษาให้จำคุกฐานฉ้อโกงประชาชน รวม 29 กระทงๆละ 3 ปี รวม 87 ปี , พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เป็นเวลา 3 ปี และความผิดฟอกเงิน รวม 12 กระทงๆ ละ 2 ปี เป็นจำคุก 24 ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกสูงสุดได้ 20 ปี และให้ชดใช้เงินกับผู้เสียหายกับ 29 ราย ตามจำนวนที่ได้ฉ้อโกงไป