posttoday

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง "หมอนิ่ม"สั่งคุกตลอดชีวิต"แม่"คดีจ้างฆ่าเอ็กซ์จักรกฤษณ์

07 สิงหาคม 2561

ศาลอุทธรณ์พลิก! ยกฟ้อง"หมอนิ่ม" ขณะที่ "แม่"ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตคดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์ จักรกฤษณ์

ศาลอุทธรณ์พลิก! ยกฟ้อง"หมอนิ่ม" ขณะที่ "แม่"ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตคดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์ จักรกฤษณ์

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ศาลจังหวัดมีนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีจ้างวานฆ่านายจักรกฤษณ์ หรือ เอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย โดยคดีนี้ อัยการศาลจังหวัดมีนบุรีเป็นโจทก์ฟ้อง นายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย อายุ 36 ปี มือปืน , น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 75 ปี มารดาของ พญ.นิธิวดี , พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 41 ปี อดีตภรรยา , นายสันติ หรืออี๊ด ทองเสม อาชีพทนายความ และนายธวัชชัย เพชรโชติ ผู้ขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนก่อเหตุ เป็นจำเลยที่ 1 – 5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , จ้างวานใช้ ยุยงส่งเสริม ให้ฆ่า , มีและพกพาอาวุธปืน ยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้องพญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3เนื่องจากห็นว่า ตามทางนำสืบและคำเบิกความพยานต่างๆในศาลชั้นต้นรับฟังได้ว่า พญ.นิธิวดี ยังมีความรักใคร่กับผู้ตายอยู่ โดยก่อนเกิดเหตุคดีนี้เดือน ส.ค.56 จำเลยยังเคยพาบุตรสาวไปเยี่ยมผู้ตายที่เรือนจำทหารระหว่างถูกดำเนินคดีทำร้ายร่างกายจำเลย และไม่คัดค้านการประกันตัวผู้ตายของศาลทหารด้วย รวมทั้งยังเคยนั่งรถไปกับผู้ตายช่วงก่อนเกิดเหตุอีกทั้งช่วงหลังที่ผู้ตายออกมาก็ไม่มีเหตุทำร้ายจำเลยจึงเป็นไม่เหตุจูงใจ เชื่อจำเลยยังมีความรักกับผู้ตายอยู่พยานหลักฐานแวดล้อมยังฟังไม่ได้ว่าเป็นคนจ้างวาน 

พยานหลักฐานมีข้อสงสัยตามสมควรว่าร่วมจ้างสนหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 พิพากษาให้ยกฟ้อง โดยศาลไม่สั่งขังจำเลยระหว่างฎีกาด้วยแต่อย่างใด

ขณะที่ นางสุรางค์ มารดาของพญ.นิธิวดี จำเลยที่ 2ศาลอุทธรณ์ได้ตรวจพยานหลักฐานที่นำสืบมาประกอบคำให้การรับสารภาพของ น.ส.สุรางค์ ที่ได้กระทำโดยเปิดเผยในสถานที่ราชการต่อหน้าพนักงานสอบสวน และประธานสภาทนายความประจำจังหวัดมีนบุรีที่ตำรวจประสานให้ร่วมฟังการสอบสวน รวมทั้งมีสื่อมวลชนและนางปวีณา อดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ ขณะนั้นที่ น.ส.สุรางค์และ พญ.นิธิวดี ให้ความเคารพไว้วางใจตั้งแต่เหตุการณ์ที่ช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาครอบครัว จึงเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้ถูกชักจูงใจ

โดยข้อเท็จจริงรับฟังได้จำเลยที่ 2 ว่าเป็นผู้จ้างวานให้คนกลางซึ่งตำรวจและอัยการกันไว้เป็นพยาน ได้ติดต่อกับ จำเลยที่ 4 ได้รับมอบเงิน 2 ครั้ง ครั้งแรก 600,000 บาท และมีการร้องขอเพิ่มอีก 600,000 บาทซึ่งจำเลยที่ 2 ตกลงให้ แล้วจำเลยที่ 4 ได้จ้างจำเลยที่ 1 ที่เป็นมือปืน และจำเลยที่ 5 ที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ นำปืนที่จำเลยที่ 4 เตรียมไว้ไปฆ่าผู้ตายวันเกิดเหตุ 19 ต.ค.56 โดยจำเลยที่ 1 และ 5 ระบุว่าได้เงินจ้างคนละ 200,000 บาท เนื่องจาก น.ส.สุรางค์ ยังโกรธแค้นที่ผู้ตาย ทำร้ายร่างกาย หมอนิ่ม ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียว และทำร้ายหลานสาวได้รับบาดเจ็บหลายครั้งหลายหน และเชื่อว่าผู้ตายไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมได้

น.ส.สุรางค์ จึงมีความผิดฐานใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้ตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นควรพิพากษากลับเป็นให้ประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม คำให้การของ น.ส.สุรางค์ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต

ขณะที่ทนายความได้เตรียมยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นฎีกา

ส่วนนายจิรศักดิ์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นมือปืน และ นายธวัชชัย จำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นคนขี่จักรยานยนต์ให้มือปืน ศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกตลอดชีวิต

ขณะที่ นายสันติ จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นคนติดต่อมือปืน พิพากษายืนยืนลงโทษประหารชีวิตสถานเดียวตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ทั้งนี้ศาลได้ให้จำเลยร่วมกันชดใช้เงิน 2.5 ล้านบาทให้ครอบครัวนายจักรกฤษณ์

คดีนี้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2559 ศาลจังหวัดมีนบุรีได้มีคำพิพากษาประหารชีวิต พญ.นิธิวดี และนายสันติ ส่วนนายธวัชชัย คนขี่จักรยานยนต์ และนายจิรศักดิ์ มือปืนให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ นางสุรางค์ ให้ยกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว พญ.นิธิวดี โดยตีราคาประกัน 2.5 ล้านบาท