สั่ง77จังหวัดรับมือภัยพิบัติ! ริมโขงน้ำทะลักท่วมหนัก

“พล.อ.อนุพงษ์” สั่ง ผวจ.77 จังหวัดรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบ คนริมโขงอ่วมน้ำท่วมตั้งแต่ชายแดนเหนือยันอีสาน

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดมรสุมฝนตกหนักทั่วไทยจึงสั่งการให้ ผวจ.77 จังหวัดป้องกันภัยพิบัติทุกรูปแบบ และกำชับทุกพื้นที่ให้ติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุกจังหวัด และอำเภอต้องเตรียมแผนรองรับช่วยเหลืออย่างเต็มที่และรวดเร็ว อาทิ พื้นที่ที่ติดแม่น้ำโขงที่มีน้ำท่วมขัง การเกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ติดภูเขา และพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม ซึ่งหากจำเป็นให้แจ้งเตือนประชาชนทันที

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กรณีเสี่ยงแผ่นดินสไลด์ ต้องรีบออกจากพื้นที่และหาที่พักพิง ต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่ จ.น่าน โดยนอกจากลงพื้นที่ อ.บ่อเกลือ แล้ว บ่ายวันนี้จะมีการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือด้วย เพื่อติดตามสถานการณ์เสี่ยงภัยต่างๆ และจะกำชับกรณีเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือดินโคลนถล่ม เพื่อให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่บูรณาการร่วมกันอย่างดีที่สุด

ด้าน นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ จ.เชียงราย กล่าวว่า ได้เรียกประชุมผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และฝ่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ และการเตรียมพร้อมในการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เมื่อเกิดเหตุ โดยในพื้นที่ อ.เชียงของ แบ่งการเฝ้าระวังเป็น 3 พื้นที่ คือ 1.หมู่บ้านริมแม่น้ำโขงซึ่งจะต้องเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจจะสูงขึ้น โดยให้เตรียมความพร้อมในการเคลื่อนย้ายจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจะเข้าท่วมหมู่บ้านได้ 2.พื้นที่ติดภูเขาให้เฝ้าระวังเกี่ยวกับดินสไลด์ และ 3.พื้นที่ติดลำห้วยให้เฝ้าระวังเกี่ยวกับน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้ดำเนินการเฝ้าระวังในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองแล้ว

“สำหรับปัจจัยในแม่น้ำโขงที่จะทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ 1.ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องหากตกหนักอาจจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นบ้าง และ 2.การปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหงทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งในส่วนที่ 2 นี้ทางอำเภอได้ประสานงานกับทางกรมเจ้าท่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้ในช่วงนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะฝั่งชายแดนเชียงราย ตั้งแต่เชียงแสน เชียงของ เวียงแก่น น้ำในแม่น้ำโขงทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างหนัก” นายทัศนัย กล่าว

ขณะที่ระดับแม่น้ำโขงยังเพิ่มสูงต่อเนื่องผลพวงจากฝนตกหนักตลอดปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงล้นทะลักท่วมในหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย ที่จ.สกลนคร น้ำท่วมหนัก 3 อำเภอ คือ โพนนาแก้ว โคกศรีสุพรรณ และเมืองสกลนคร โดยให้หมู่บ้านริมหนองหารติดลำน้ำก่ำ ขนของขึ้นที่สูง เช่นเดียวกับ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงเริ่มวิกฤตและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 11 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตประมาณ 2 เมตร คือที่ระดับ 13 เมตร ส่งผลให้บางจุดล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรกว่าพันไร่ โดยเฉพาะ ต.บ้านกลาง อ.เมือง ได้รับผลกระทบหนัก

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นทาง จ.นครพนม ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อจัดสรรงบประมาณให้การช่วยเหลือเร่งด่วนแล้วจำนวน 7 อำเภอ ประกอบด้วย 1.ท่าอุเทน 2.โพนสวรรค์ 3.ธาตุพนม 4.เรณูนคร 5.ปลาปาก 6.เมืองนครพนม และ 7.บ้านแพง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย พร้อมประกาศเตือนให้พื้นที่เสี่ยงติดกับแมน้ำสายหลัก เฝ้าระวังการเกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน